SUPER เผย เปิดดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) โซลาร์ฟาร์มเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 186.72 เมกะวัตต์ เรียบร้อยแล้ว สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี ชี้ ผลตอบแทน 13-15 %
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เปิดดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ในโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รวม 4โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 186.72 เมกะวัตต์ ที่บริษัท ซุปเปอร์ วินด์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SWE) และบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี กรุ๊ป จำกัด (SUPERE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าลงนามซื้อขายหุ้น ในบริษัท Nam Veit Phan Lam Co.,Ltd , Everich Binh Thuan Energy Limited Liability Company ( Binh An), Van Giao Solar Power Plant Joint Stock Company และVan Giao Solar Energy Plant Joint Stock Company โดยได้เริ่ม COD ในเดือนมิถุนายน 2562 เรียบร้อยแล้ว
โครงการดังกล่าวมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุน (EIRR) ไม่น้อยกว่า 13 % ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯมีจำนวนสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า หรือ PPA ในมือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของรายได้
ทั้งนี้ ส่งผลให้โครงการโรงไฟฟ้ามีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และเมื่อรวมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทย่อยของ SUPER ในประเทศไทยที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วจำนวน 768.60 เมกะวัตต์ จะทำให้มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 955.32 เมกะวัตต์
สำหรับการดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม SUPER ยังทยอยพัฒนาโครงการต่าง ๆ ตามแผนงาน ทั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีในมือ รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 350 เมกะวัตต์ ที่ จะทยอยเริ่มสร้างเฟสแรก คาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/62 เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ยังได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนจากรัฐบาลเวียดนามเช่น สิทธิประโยชน์ด้านภาษีและสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
ปัจจุบันความต้องการใช้ไฟฟ้าในเวียดนามเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยถึง 10% ต่อปี และการที่รัฐบาลเวียดนามเร่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานจากแสงอาทิตย์ พลังงานลม และชีวมวล จะสนับสนุนให้ความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศเติบโตได้ดี ขณะที่ SUPERเองจะได้ประโยชน์ต่อการสร้างรายได้ และกำไรในอนาคต
“SUPER มีความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี ซึ่งการลงทุนในประเทศเวียดนามนับเป็นหนึ่ง เป้าหมายของบริษัทฯในการขยายฐานธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนไปต่างประเทศ และจะทยอยสร้างรายได้ในเห็นในปีนี้ และปีถัดไป ช่วยให้บริษัทฯ มีแหล่งรายได้ในระยะยาว ขณะที่แนวโน้มรายได้ คาดว่าจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท จากจำนวนกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ตามเป้าหมาย” นายจอมทรัพย์ กล่าว