หลายร้อยตารางเมตรของ Siemens ในงาน EMO Hannover 2019 มีฮาร์ดแวร์หรือแมชชีนมาจัดวางน้อยมาก มันกว้างใหญ่ อลังการณ์ อ้างว้าง จนแทบไม่รู้จะโฟกัสตรงไหนดี ยิ่งผมไปถึงบูธตอนใกล้จะปิดฮอลล์ แม้จะยังมีคนในบูธกว่าร้อยคนก็ยังดูกว้างเหลือเกิน
แต่ทุก ๆ สถานีที่จัดแสดงในบูธ Siemens คือการจำลองประสบกาณ์ที่ดีที่สุดให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสถึงยุค Digital Manufacturing เพราะแต่ละโซนแบ่งตาม Digital Solutions ต่าง ๆ รวม 52 Solutions ให้เห็นของจริงกันแบบเจาะจงชัด ๆ กันไปเลย
แสดงให้เราเห็นว่า Siemens นั้นได้ผันตัวเองสู่ Digital Transformation โดยไม่ต้องอาศัยคำอธิบาย
หัวใจของ Siemens ในการจัดแสดงใน EMO ครั้งนี้คือ SINUMERIK ONE ซึ่งผมได้คุยกับวิศวกรฝ่าย Additive Manufacturing ว่า Siemens กำลังคิดการณ์ใหญ่ ต้องการที่จะร่วมงานกับฮาร์ดแวร์ทุกราย เพราะต้องการทำให้ SINUMERIK กลายเป็น Digital Native CNC ที่จะแทรกเข้าไปในทุก tier ของ supply chain ตั้งแต่
- การออกแบบเครื่องจักรให้ดีขึ้น เร็วขึ้น ซ่อมง่ายขึ้น เทรนสะดวกขึ้น โดยสนับสนุนด้วยระบบ simulation และ digital twin
- รองรับการเชื่อมต่อ IoT
- มี SINUMERIK MC ที่เป็น Open CNC เพื่อให้นักพัฒนานำไปต่อยอดเองได้
- เป็นระบบที่ครอบคลุมทั้งเครื่องจักรขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ไม่ว่าจะเครื่องกลึง ห้าแกน โรบอต Turning และที่เป็นไฮไลท์สำคัญคือ Additive Manufacturing หรือที่เราเรียกกันว่า 3D Printers ซึ่งวิศวกรของซีเมนส์ proudly present มาก ๆ
- Edge หรือเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลในสายการผลิต ทั้งการใช้ Digital Twin การประมวลข้อมูลให้ AI นำไปวิเคราะห์ต่อ ไปจนถึงงานเฝ้าระวังหรือ monitoring
- สำหรับผู้ใช้งาน ก็จะได้ระบบที่สนับสนุนตั้งแต่การออกแบบชิ้นงาน การวางแผนการผลิต
- อุตสาหกรรม Additive Manufacturing หรือ 3D Printing จะได้รับอานิสงค์มากที่สุด เพราะเป็นการผลิตที่มีความซับซ้อนซึ่งต้องอาศัยความละเอียดแม่นยำในการควบคุม และการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เพื่อให้สามารถ Optimize ผลผลิตได้คุ้มค่าในเชิงพาณิชย์
ทุกอย่างที่ว่ามานี้ Siemens เคลมว่าสามารถเชื่อมต่อถึงกันแบบไร้รอยต่อ แต่นั่นแปลว่าทั้งผู้พัฒนาเครื่องจักรและผู้ใช้ต้องพร้อมเพรียงขานรับ SINUMERIK
มองอีกทาง ก็เหมือนผูกขาดนิด ๆ
ถ้าใช้ SINUMERIK แล้วก็ต้องใช้ให้ตลอด
(คล้าย ๆ เลือกค่าย ว่าจะ iOS หรือ Android)
ถ้าถามว่าคุ้มเสี่ยงไหม…ผมว่าคุ้มครับ
เพราะนี่คือสิ่งดีที่เราจะมีมาตรฐานเดียวกันในการพัฒนาด้าน Automation และ Digital Manufacturing และมันจะยิ่งดีมาก ๆ ถ้ามาตรฐานนั้นมาจาก Big Player ระดับโลก
ในงานนี้ Siemens ทำให้ผมเชื่อจริง ๆ ว่า
เขาคือ Big Player ที่จริงจังสุด ๆ เรื่อง Digital Manufacturing Solutions