Thursday, October 31Modern Manufacturing
×

RFID เทคโนโลยีช่วยให้บริหารการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้นในแนวความคิด IOT

เทคโนโลยีสำหรับติดตาม (Tracking) สินค้า วัสดุ หรือผลิตภัณฑ์นั้นมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกยุคปัจจุบันที่เครื่องมือและอุปกรณ์ทุกอย่างล้วนเชื่อมต่อและสื่อสารระหว่างกัน ภายใต้กรอบของแนวคิด ‘Internet of Things: IoT’ ซึ่งการทำงานของเทคโนโลยีอย่าง Radio Frequency Identification หรือที่หลายๆ คนคุ้นเคยในชื่อ ‘RFID’ นั้นถือเป็นแขนขาของ IoT ที่มีบทบาทสำคัญในการตรวจจับและรับ-ส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้เป็นอย่างดี นับเป็นส่วนการทำงานของระบบเซ็นเซอร์ที่รับ-ส่งข้อมูลอันเป็นพื้นฐานหรือข้อมูลเบื้องต้นภายใต้แนวคิด IoT ที่จำเป็นที่สุดสำหรับการเฝ้าติดตามและตรวจสอบ ด้วยการประยุกต์ใช้กับระบบการทำงานอัตโนมัติและ IoT ซึ่งทำให้สามารถยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยมากขึ้น

RFID: อีกหนึ่งเทคโนโลยีบริหารกระบวนการผลิตแบบเรียลไทม์ ภายใต้กรอบแนวคิด Internet of Things (IoT)

IOT คืออะไร?

Internet of Things (IOT) คือการพัฒนาอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ที่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลพร้อมสั่งงานควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านเครื่อด้วยอินเทอร์เน็ตได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้ง IOT ยังถูกนำไปใช้งานในกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ โดยได้นำแนวความคิด IOT มาพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยี RFID ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จนกลายมาเป็นคำว่า Smart ไม่ว่าจะเป็น Smart Device, Smart Grid, Smart Network, Smart Intelligent transprtation ซึ่งบรรดาสิ่งเหล่านั้นได้มีการฝังเทคโนโลยี RFID เข้าไป ที่เปรียบเสหมือน ID หรือสมองนั่นเอง ซึ่งเห็นได้ชัดว่า Internet of Things (IOT) คือบทบาทสำคัญในปัจจุบัน

RFID คืออะไร?

RFID คือ เทคโนโลยีรูปแบบหนึ่งที่ใช้ระบุข้อมูลหรือยืนยันสินค้า (Tag) สำหรับกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่มีการนำมาประยุกต์ใช้งานมากที่สุดประเภทหนึ่ง นอกเหนือจากเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Barcode, QR code, NFC ซึ่งแต่ละรูปแบบมีความเหมาะสมในการใช้งานแตกต่างกันไป

หน้าที่ของ RFID คือ การระบุตัวตนอัตโนมัติและเป็นการจัดเก็บข้อมูล หรือ Automatic Identification and Data Capture (AIDC) และป้อนข้อมูลเหล่านั้นเข้าสู่ระบบ ซึ่งประกอบด้วย RFID Tag หรือ Smart Label, RFID Reader และตัวรับสัญญาณ RFID Tag

การใช้งาน RFID ที่สามารถพบเห็นได้บ่อยครั้งในการดำเนินชีวิตประจำวัน ได้แก่ RFID ที่ติดไว้กับเสื้อผ้าในร้าน ซึ่งหากนำออกไปโดยไม่มีการจัดการที่ถูกต้อง เมื่อตัวปล่อยสัญญาณเดินทางผ่านระยะเซนเซอร์ที่กำหนดจะเกิดเสียงดังขึ้นมา หรือการใช้งานกับกุญแจรถยนต์ในการล็อครถก็เช่นกัน

RFID กับการเสริมประสิทธิภาพกำลังการผลิต

เทคโนโลยี RFID ที่ถูกนำมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมอย่างเป็นรูปธรรม เป็นการใช้เพื่อยืนยันตัวตนหรือใช้ในการติดตามระบุตำแหน่ง โดยมีบทบาทเป็นเครื่องมือสนับสนุนการทำงานของกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม โดย RFID สามารถบรรจุข้อมูลสำหรับการทำงานได้ดีกว่า Barcode จึงสามารถลดการเกิดความผิดพลาดจากการปฏิบัติงานของมนุษย์ เพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งยังช่วยในการป้อนข้อมูลเพื่อยืนยันสถานะและตำแหน่งของสินค้าหรือวัตถุดิบ เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน และที่สำคัญที่สุด คือ ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อเครือข่ายตลอดเวลาเพื่อทำงาน

อาจกล่าวได้ว่า RFID เป็นเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตที่สามารถจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบข้อมูลการผลิตและส่วนที่เกี่ยวข้องย้อนหลังได้ เป็นประโยชน์ในการดำเนินกระบวนการตรวจสอบย้อนหลัง รวมถึงลดระยะเวลาในการทำงานได้อย่างมาก

RFID มีดีอย่างไร?

  • การตรวจสอบความเกี่ยวข้องสินค้า ด้วยข้อมูลขั้นตอนที่ถูกบรรจุลงไปใน RFID ของวัสดุนั้นๆ ทำให้สามารถเชื่อมโยงและระบุความสูญเปล่า (Waste) ที่เกิดขึ้นได้ในระหว่างดำเนินการ รวมทั้งลดความเสี่ยงในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพอีกด้วย
  • การจัดเก็บสินค้า ยืนยันต่ำแหน่งที่แน่นอนของสินค้าในคลัง แยกจัดเก็บสินค้าได้ฉับไวและถูกต้อง ลดความผิดพลาดจากการดำเนินงานของมนุษย์ ลดปัญหาการจัดส่งที่ล่าช้า ทำให้เกิดความพึงพอใจจากลูกค้ามากขึ้นเมื่อเกิดการดำเนินการที่ดีและฉับไว
  • การตรวจรับสินค้า ช่วยในการยืนยันและบันทึกข้อมูลสินค้าผ่านระบบ WMS และERP ได้อย่างฉับไว มีการแสดงผลจำนวนสินค้าได้อย่างแม่นยำ
  • การจัดการคงคลัง สร้างวงรอบการทำงานที่แน่นอน มีการจัดเรียงวัสดุอัตโนมัติ และลดกระบวนการที่ทำให้เกิดความสูญเปล่า รวมถึงบริหารจัดการพื้นที่และค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
  • ใช้กับระบบป้ายคำสั่ง (Kanban) ในการเติมวัสดุหรือสินค้ามีการเติมวัสดุหรือสินค้าได้พอดีกับความต้องการช่วยลดระยะเวลา Downtime สร้างการทำงานที่ตรงต่อตารางเวลาที่วางแผนไว้
  • ติดตามการทำงานในระบบ สร้างตัวเลือกในการดำเนินการที่แม่นยำด้วยข้อมูลที่เที่ยงตรงและทันสมัย สามารถรับมือกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปได้อย่างทันท่วงทีด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนยืดหยุ่น
  • การขนส่ง สร้างวงรอบการส่งสินค้าที่ชัดเจน รวมถึงปริมาณสินค้าตามความต้องการต่อรอบ ลดปัญหาระยะเวลาคลาดเคลื่อน
  • ดูแลรักษาความปลอดภัย เพิ่มความปลอดภัยจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ปฏิบัติงานลดความเสี่ยง และยังสามารถช่วยตรวจสอบสมรรถนะการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ในเบื้องต้น

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ให้ครอบคลุมด้วย IoT + RFID

การดำเนินงานอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 จำเป็นต้องมีความฉับไวและแม่นยำ รวมถึงลดทอนความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิต ซึ่ง RFID สามารถเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลและช่วยในการแสดงผลแบบเรียลไทม์ สามารถส่งข้อมูลการทำงาน สถานะ รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ เข้าสู่ฐานข้อมูลหรือระบบ Cloud ได้ทันที ซึ่งเมื่อสามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่ายแล้วยังสามารถใช้ฐานข้อมูลออนไลน์หรือระบบประมวลผลออนไลน์ ก่อนที่จะทำการคัดกรองข้อมูลเพื่อสำรวจ รวมถึงป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ที่หน้างาน ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของเซ็นเซอร์ที่มีต่อการดำเนินงานของ IoT อันส่งผลต่อการรายงานข้อมูลได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที

อาจกล่าวได้ว่า การนำเทคโนโลยี RFID มาประยุกต์ใช้จะช่วยเสริมสมรรถนะในการดำเนินงานทุกขั้นตอนจากการรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์ และศักยภาพของ IoT ที่สอดรับกันได้อย่างดี จะทำให้สามารถรับรู้ข้อมูลที่สำคัญและดำเนินการได้อย่างทันท่วงที หรือสามารถตั้งค่าการตอบสนองต่อรูปแบบของสภาวะการณ์แบบอัตโนมัติ เพื่อสร้างความต่อเนื่องในการทำงาน รวมถึงลดความสูญเปล่าที่จะเกิดขึ้นได้ด้วยการตรวจสอบข้อมูลอย่างเป็นระบบ

EXECUTIVE SUMMARY

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวเข้ามาถึงยุคอุตสาหกรรม 4.0 การทำงานผ่านรูปแบบของ IoT จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยส่วนที่เป็นหัวใจของการปฏิบัติงาน คือ ระบบเซ็นเซอร์ที่ตรวจจับการทำงานแบบเรียลไทม์ หนึ่งในระบบตรวจจับการทำงานที่มีประสิทธิผลสำหรับงานอุตสาหกรรมที่สุด คือ เทคโนโลยี RFID ซึ่งเป็นการตรวจจับสัญญาณวิทยุและรายงานข้อมูลสถานะต่างๆ ที่เกิดขึ้นเข้าสู่ระบบเพื่อจัดการดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการ Monitoring ข้อมูล การใช้งาน RFID และ IoT ร่วมกันนั้นจะทำให้สามารถดึงเอาศักยภาพที่แท้จริงของ Industry 4.0 ออกมาได้

While we are coming forth to the industry 4.0, the Internet of Things has grown more importantly. The key to operate IoT for industry 4.0 activity is the sensor which will detect the operation behavior in real – time. One of the most efficiency tag system which will enabling the IoT for manufacturing is the Radio Frequency Identification (RFID) which detected radio signal that contained information and report status to the system. RFID technology will improve the efficiency of the manufacturing operation through the monitoring system. The cooperation of RFID and IoT will represent the true power of industry 4.0 which will drive overall operation into success.


Source:

  • http://goo.gl/Nh3sHQ
  • http://goo.gl/lMJf3p
  • http://goo.gl/RVDqck
  • RFID or IoT (Research of ChainLink Research)
  • Practical Uses for RFID Technology in Manufacturing and Distribution Applications (White Paper of Danby Group)
READ MORE

Notice: Undefined index: popup_cookie_abzql in /home/mmthaixaulinbx/webapps/mmthailand/wp-content/plugins/cardoza-facebook-like-box/cardoza_facebook_like_box.php on line 924