Saturday, November 23Modern Manufacturing
×

การพิมพ์ 3 มิติและ Social Media ช่วยรับมือกับการขาดแคลน PPE ท่ามกลาง COVID-19 ได้อย่างไร

เมื่อ COVID-19 เกิดระบาดขึ้น อุปกรณ์ป้องกันทางการแพทย์ที่ผลิตจาก PPE จึงเกิดความขาดแคลนอย่างรวดเร็ว ภายใต้สังคมยุคดิจิทัลที่มีการใช้สื่อออนไลน์ที่มีความรวดเร็วและเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติที่เข้าถึงได้ง่ายทำให้สามารถรับมือกับความขาดแคลนได้อย่างทันท่วงที โดยรายงาน How 3D printing and social media tackles the PPE shortage during Covid – 19 pandemic ได้ชี้ให้เห็นการใช้งานเทคโนโลยีร่วมกันเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคจากโรคระบาดอย่างชัดเจน

3D Print Covid PPE

การระบาดของ COVID-19 เกิดการติดเชื้อมากกว่า 2 ล้านคนทั่วโลกและมีอัตราการตายหลายแสนคนโดยผู้ป่วยอายุระหว่าง 40 – 49 ปีคิดเป็นสัดส่วน 0.4% และจะเพิ่มเป็น 14.8% สำหรับช่วงอายุ 80 ปีขึ้นไป PPE หรือ Personal Protective Equipment เป็นหนึ่งในมาตรฐานการป้องกันสุขภาวะและความปลอดภัยในยุคปัจจุบันที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง

หนึ่งในมาตรการสำคัญของทางภาครัฐในการยับยั้งการระบาด คือ Social Distancing หรือการเว้นระยะทางสังคมซึ่งส่งผลให้การใช้ Social Media หรือสังคมออนไลน์ขยายตัวอย่างรวดเร็วจากเดิมที่มีการใช้งานจำนวนมหาศาลอยู่แล้ว จากข้อมูลพบว่า 40% ของประชากรโลกมีการใช้งาน Social Media มีผู้ใช้งานต่อวันมากกว่า 1.5 พันล้านราย ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายการใช้งานนั้นเกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพ และในขณะเดียวกันที่เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น เมื่อวิกฤตการณ์มาถึงประกอบกับเทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ และข้อมูลข่าวสารสามารถแลกเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้องค์ประกอบทั้ง 3 อย่างนี้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับปัญหาที่ถาโถมมาอย่างหนักหน่วง

ผู้คนกว่า 7 พันล้านคนตอบสนองต่อการระบาดของไวรัสโคโรนาบนสื่อออนไลน์ เว็บไซต์ บล็อค เว็บข่าวภายในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้คนมากกว่า 5 ล้านคน ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ PPE เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติที่เกี่ยวข้อง ในช่วงเวลาดังกล่าวผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์ หน่วยวิจัยและผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3 มิติต่างเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วไปและหน่วยงานทางการแพทย์สามารถโหลดไฟล์อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการรับมือ COVID-19 บางส่วนเพื่อใช้งานภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน

จากงานวิจัยพบว่าผู้คนตอบสนองต่อข้อมูลเกี่ยวกับ  Covid19, Covid, Coronavirus, Covid_19, Covid-19 หรือ SARS=CoV-2 มากที่สุดบนแพลทฟอร์ม Facebook 63% จากยอด Reach ทั้งหมด 7.2 พันล้าน

จากจำนวนทั้งหมดนั้น มีการค้นหา Keywords ที่มีเพิ่มเงื่อนไขกับกลุ่ม Covid และ Additive Manufacturing (3D Print) เข้าร่วมกับกลุ่มคำที่เป็นอุปกรณ์สำคัญดังนี้

PPE: ผู้คนตอบสนองต่อข้อมูลผ่าน New/Blogs คิดเป็น 50% และ Web คิดเป็น 28.9% จากทั้งหมด 4.2 ล้าน Reach

Face Shield: ผู้คนตอบสนองต่อข้อมูลผ่าน New/Blogs คิดเป็น 42.8% และ Web คิดเป็น 27.0% จากทั้งหมด 3.1 ล้าน Reach

Goggles: ผู้คนตอบสนองต่อข้อมูลผ่านNew/Blogs คิดเป็น 64% และ Web คิดเป็น 34% จากทั้งหมด 59,300 Reach

Valves: ผู้คนตอบสนองต่อข้อมูลผ่าน New/Blogs คิดเป็น 57.7% และ Web คิดเป็น 28.2% จากทั้งหมด 1.4 ล้าน Reach

งานวิจัยพบว่า PPE ที่สามารถพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ได้นั้น ได้แก่ อุปกรณ์คลุมรองเท้าบูท, Respirator, แว่นตา/อุปกรณ์ป้องกันดวงตาทางการแพทย์ และFace Shield โดยมีการออกแบบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ Face Shield มากที่สุด 109 แบบ และรองลงมาคือ Respirator 36 แบบ ในขณะที่แว่นตาป้องกันอยู่ที่ 2 แบบเท่านั้น

งานวิจัยชิ้นนี้มีความพยายามในการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการระบาดของโรค, Social Media และการใช้งานเครื่องพิมพ์ 3 มิติ สะท้อนการใช้งานของเทคโนโลยีการเติมเนื้อวัสดุผ่านสังคมออนไลน์โดยผู้ใช้ทั่วไปภายใต้สภาวะการขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกัน ซึ่งจากโมเดล QALY จะพบว่าการมีใช้อุปกรณ์ป้องกันเหล่านี้จะสามารถยืดอายุหรือระยะเวลาของผู้ป่วยและบุคคลทั่วไปได้

จากข้อมูลที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป สถานการณ์ความขาดแคลนอุปกรณ์สำหรับรับมือ COVID-19 เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในหลากหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป ซัพพลายเชนและสายการผลิตทั้งหลายลดกำลังผลิตลง และไม่น้อยก็ยกเลิกสายการผลิต ทำให้อุปกรณ์ป้องกันซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นโดยเฉพาะสำหรับแนวหน้าในการต่อสู้อย่างแพทย์เกิดความขาดแคลน

การแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้หากขาดปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ไม่ว่าโลกของการสื่อสารข้อมูลที่มีความรวดเร็ว ความสามารถในการแบ่งปันข้อมูลผ่านเครือข่าย ตลอดจนความสามารถในการผลิตแบบรวดเร็ว (Rapid) จากเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ คือ การลดความสูญเสียที่เกิดจากโรคระบาดที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ในขณะที่รายงานวิจัยชิ้นนี้ยังชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายระดับ เช่น การขาดแคลน PPE การแลกเปลี่ยนข้อมูลและเทคโนโลยี ตลอดจนการระบุเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่ต้องการในพื้นที่เพื่อดำเนินการตามเป้าหมายให้สมฤทธิ์ผลเป็นต้น

ที่มา:
How 3D printing and social media tackles the PPE shortage during Covid – 19 pandemic

READ MORE

Notice: Undefined index: popup_cookie_abzql in /home/mmthaixaulinbx/webapps/mmthailand/wp-content/plugins/cardoza-facebook-like-box/cardoza_facebook_like_box.php on line 924