Factory Automation Forum 2019 รวมพลคนออโตเมชั่นครั้งยิ่งใหญ่ – พาร์ทเนอร์นับร้อยจับมือมิตซูฯ หนุนแพลตฟอร์ม 4.0 เกิดจริงในไทย
บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานสัมมนา Mitsubishi Electric – Factory Automation Forum 2019 ภายใต้หัวข้อ e-Factory – Connect Everything นำเสนอและพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมประเทศไทยก้าวไกลสู่ยุค 4.0 ด้วยข้อมูลความรู้รวมถึงจัดแสดงบูธนิทรรศการที่น่าสนใจ ณ ห้องฉัตราบอลรูม ชั้น 2 โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2562
บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานสัมมนา Mitsubishi Electric – Factory Automation Forum 2019 ภายใต้หัวข้อ e-Factory – Connect Everything โดยมี ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมด้วย นายยูทากะ คาวาซากิ กรรมการผู้จัดการบริษัทมิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) และ นายวิเชียร งามสุขเกษมศรี กรรมการบริหารบริษัทมิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
นายยูทากะ คาวาซากิ กล่าวถึง วัตถุประสงค์ในการจัดงาน Factory Automation Forum 2019 ‘e-Factory Connect Everything’ ในครั้งนี้ว่า เพื่อต้องการสื่อสารข้อมูลและนำเสนอคอนเซ็ปต์ e-Factory Solution ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ Smart Factory โรงงานอัจฉริยะ ที่กำลังเข้ามามีบทบาทอย่างสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิตทั้งในปัจจุบันและ ในอนาคต รวมถึงจัดแสดงและสาธิตการทำงานร่วมกัน ระหว่าง e-Factory Solution กับเทคโนโลยี AI ซึ่งในการจัดแสดงมีพันธมิตรทางธุรกิจถึง 16 บริษัท ได้นำเทคโนโลยีด้าน Smart Factory ของแต่ละบริษัทมาร่วมจัดแสดงพร้อมกันในงานนี้ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวและบทบาทที่สำคัญของ Mitsubishi Electric และพันธมิตรทางธุรกิจ ที่มีต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทย จากอดีตจนถึงปัจจุบัน และแนวโน้มของเทคโนโลยีที่จะถูกนำมาใช้กับภาคอุตสาหกรรมของไทยในอนาคต รวมถึงความร่วมมือกับภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการความร่วมมือในการสร้างศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรม เพื่อพัฒนาขีดความสามารถบุคลากรและกำลังคนเพื่ออุตสาหกรรม ‘Smart Factory หรือ โรงงานอัจฉริยะ’
“สำหรับ Smart Factory หรือ โรงงานอัจฉริยะ ของบริษัทฯ ประกอบด้วยระบบการทำงาน 3 ส่วน ที่เชื่อมต่อกันและทำงานร่วมกันแบบ Real Time ควบคุมการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ระบบ IT จะทำหน้าเก็บรวบรวมข้อมูลในทุกมิติของกระบวนการผลิต การปฏิบัติจัดการ การบริหารการผลิต วิเคราะห์และประมวลผล การป้อนคำสั่งการทำงาน ระบบ Edge Computing จะทำหน้าที่ส่งผ่านข้อมูลคำสั่งไปยังหน้างาน และเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ จากหน้างานนำกลับมาสู่การประมวลผลใหม่ ระบบหน้างาน (Shop Floor) เมื่อได้รับคำสั่งจะเกิดกระบวนการทำงานบนหน้างาน มีระบบการควบคลุมที่สามารถปรับตั้งได้ ซึ่งทั้ง 3 ระบบ จะทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบโดยอัตโนมัติ เทคโนโลยี AI และ Robot เสริมให้การทำงานมีความถูกต้องไม่มีความผิดพลาด ซึ่งผลที่ได้จะช่วยในการเพิ่มผลผลิต เพิ่มคุณภาพ สร้างความยั่งยืน มันคงและปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และส่งผลให้ลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ยังมีตัว Sensor ที่สามารถตรวจจับ ความผิดปกติของกระบวนการผลิตและแจ้งเตือนตลอดเวลาแก้ปัญหาทั้งปวงที่เคยมี” นายยูทากะ คาวาซากิ กล่าวถึงความสำคัญของ Smart Factory
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
มิตซูบิชิฯ สกพอ. และ ม.บูรพา ลงนามความร่วมมือยกระดับกำลังคนด้านระบบอัตโนมัติรองรับ EEC