ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชื่อดังไม่สามารถทำตลาดแข่งกับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตเองภายในประเทศแถบเอเชียมากขึ้น อาทิ กาแฟซึ่งผลิตภายในประเทศอินโดนีเซียได้รับความนิยมมากกว่าสินค้าประเภทเดียวกันจาก Nestle และ L’Oreal ที่เจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากจากบริษัทเครื่องสำอางค์ภายในประเทศจีน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตลาดเอเชียถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีอัตราการบริโภคสินค้าที่สูงมาก ทำให้ผู้ประกอบการจากทวีปอื่นๆ ให้ความสนใจลงทุนทำธุรกิจกันอย่างแพร่หลายและยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภคด้วยภาพลักษณ์ของแบรนด์จากต่างประเทศ แต่ในปัจจุบันสินค้าตัวเลือกที่ผลิตภายในพื้นที่หรือภูมิภาคเดียวกันกลับสามารถทำตลาดตีตื้นผู้ผลิตที่ครองส่วนแบ่งตลาดเดิมได้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากลักษณะที่ใกล้เคียงกับรสนิยมคนพื้นถิ่นและราคาที่สามารถแข่งขันได้ ตัวอย่างที่สามารถเห็นได้ประเทศไทย เช่น แคร็กเกอร์จากมาเลเซีย ชาจากเมียนมา กาแฟจากเขาทะลุ รวมถึงคราฟท์เบียร์ไทยที่ตีตื้นการผูกขาดการผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศ ซึ่งสินค้าเหล่ากลายเป็นสินค้าทางเลือกของผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่มีความหลากหลายมากขึ้น การผูกขาดตลาดรวมถึงเทรนด์ต่างๆ เกิดความหลากหลายขึ้นตาม Disruption Technology ถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการหลายรายในการผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายนี้ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค
ที่มาข่าว:
- http://www.industryweek.com/companies-executives/nestle-loreal-see-easy-money-era-killed-asia-brands