การควบคุมการส่งออกของญี่ปุ่นภายใต้นโยบายใหม่ตั้งเป้าส่งผลกระทบต่อเกาหลีใต้ ในฐานะที่เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีการผลิตชิปจำนวนมากให้กับตลาดโลก ผลกระทบจากจุดเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นกลายเป็นปัญหาของซัพพลายตลาดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่างชิปต่าง ๆ เป็นวงกว้าง
นโยบายใหม่ของญี่ปุ่นนั้นกำหนดให้ผู้ส่งออกสารเคมี 3 ชนิดสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่ส่งออกไปยังเกาหลีใต้ ต้องทำการขออนุมัติและพิจารณาสินค้าทุกครั้งก่อนส่งออก โดยรัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่าในแต่ละกรณีที่ยื่นเรื่องขออนุมัตินั้นต้องใช้เวลายาวนานถึง 3 เดือน ในขณะที่ผู้ผลิตเกาหลีใต้นั้นเก็บรักษาชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบไว้เพียงพอต่อการใช้งานแค่ 1 หรือ 2 เดือนเท่านั้น โดยญี่ปุ่นได้ลบรายชื่อเกาหลีใต้ออกจากรายชื่อ 27 ประเทศที่เป็นมิตรต่อการส่งออกที่มีสหรัฐอเมริกา เยอรมนี รวมถึงฝรั่งเศสอยู่ในรายชื่อ ซึ่งหมายถึงสินค้าที่มีศักยภาพทางการทหารนั้นต้องได้รับการรับรองจากทางรัฐบาลเสียก่อน โดยไม่เคยมีประเทสใดเคยถูกถอดถอนออกจากรายชื่อนี้มาก่อน
โดยเกาหลีใต้มีส่วนในการผลิต Random Access Memory หรือ RAM ในตลาดโลกมากถึง 70% และ NAND Flash Memory ถึง 50% ซึ่งชิปเหล่านี้ถูกใช้โดย iPhone จาก Apple หรือ Huawei รวมไปถึงคอมพิวเตอร์ อาทิ HP และ Lenovo หรือในโทรทัศน์อย่าง Sony และ Panasonic เป็นต้น นโยบายใหม่นี้จึงส่งผลกระทบในระดับต้นน้ำของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ไม่เพียงเป็นปัญหาระหว่างสองประเทศอีกต่อไป
ปัญหาที่เกิดขึ้นคาดว่าเป็นปัญหาที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ความสัมพันธ์ยุคสมัยแห่งการล่าอาณานิคม อันเป็นผลมาจากข้อพิพาทเกี่ยวกับสินไหมทดแทนจากบริษัทญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้สำหรับแรงงานในช่วงเวลาแห่งสงคราม ซึ่งการถอดถอนรายชื่อและการชะบอการส่งออกเป็นหนึ่งในสัญญาณการเตือนเกาหลีใต้ให้ระมัดระวังในการเอาใจใส่ต่อระดับความสัมพันธ์
ที่มา:
Asia.nikkei.com