Intel ยอมรับความล้มเหลวที่ทำให้ Apple หันไปผลิตชิปของตัวเองและเริ่มกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ CPU ของตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ โดยปัญหาหลักเกิดขึ้นจากคุณภาพการผลิตที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ตกลงกันไว้
Apple ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ให้ความสำคัญกับ Performance และรสนิยมเพิ่งเปิดตัว CPU รุ่นใหม่หมาด ๆ อย่าง M1 PRO และ M1 MAX ซึ่งมีสถาปัตยกรรมการประมวลผลแบบ ARM ซึ่งนับวันจะมีสัดส่วนการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอุปกรณ์ของ Apple ในขณะที่โดยทั่วไปแล้วอุปกรณ์ Desktop อย่างคอมพิวเตอร์ของ Apple ที่ต้องการกำลังการประมวลผลอันทรงพลังนั้นจะใช้สถาปัตยกรรมของชิปแบบ X86/X64 จาก Intel (มีบางช่วงเคยใช้ AMD) ซึ่งเมื่อนำรุ่นเรือธงอย่าง M1 MAX กับ Intel Core i9 มาเทียบกัน ชิปของ Apple ยังมีประสิทธิภาพสูงกว่าถึง 2 เท่า
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาต้องบอกว่า Intel อยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ การเสียส่วนแบ่งของตลาดจาก Apple ไปก็เรื่องหนึ่งแล้วแต่การที่คู่แข่งอย่าง AMD สามารถแซงหน้าทิ้งขาดไปพักใหญ่ ๆ ทั้งประสิทธิภาพและส่วนของตลาด Consumer ซึ่งทำให้ Intel ต้องดึงสติของตัวเองเอาไว้ให้มั่น
เพื่อแก้สถานการณ์ดังกล่าว Pat Gelsinger CEO ของ Intel ตั้งเป้าให้บริษัทกลายเป็นผู้นำในเทคโนโลยีการประมวลผลและบรรจุภัณฑ์ในปี 2025 โดยเริ่มเพิ่มกำลังการผลิตและสร้างส่วนธุรกิจใหม่ในชื่อ Intel Foundry Services ซึ่งมีสัญญาเข้ามาแล้วจาก Qualcomm และ Amazon รวมถึงภาครัฐอย่างหน่วยงานป้องกันประเทศของสหรัฐอเมริกา
การสูญเสีย Apple ไปในทางภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นของแบรนด์ก็ได้เกิดความสั่นคลอนขึ้นไม่น้อยเช่นกัน เพราะมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาตัดสินใจที่จะสร้างชิปที่ดีกว่าที่ Intel ทำได้ขึ้นมา
เพื่อแก้สถานการณ์ Gelsinger ได้วางแผนเรียกความไว้ใจของ Apple กลับมาด้วยการแข่งขันเพื่อแสดงให้เห็นว่าเหล่านักพัฒนาและผู้บริโภคนั้นยังคงถูกดึงดูดอยู่กับสิ่งที่สถาปัตยกรรม X86 มอบให้ได้ ซึ่งตอนนี้ Intel กำลังร่วมมือกับ Microsoft เพื่อพัฒนาให้แอปฯ จาก Android สามารถรันบน Windows 11 ได้อยู่
นอกเหนือจากตลาด CPU แล้ว Intel ยังตั้งเป้าตีตลาด GPU ซึ่งยึดครองไว้โดย Nvidia และ AMD มาเป็นเวลาอย่างยาวนานอีกด้วย ซึ่งในอดีตความพยายามตีตลาดนี้ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก อย่างน้อยหากใครเคยใช้ชิปออนบอร์ดของ CPU Intel เช่น Iris Series นั้นไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีเท่าไหร่สำหรับการประมวลผลภาพ ไม่ว่จะเล่นเกมส์หรือตัดต่องาน ในขณะที่ M1 ซึ่งเป็น ARM ทำได้อย่างสบาย ๆ แต่หากพิจารณาตามข้อมูลเอกสารสำหรับหน่วยประมวลผลภาพรุ่น Xe-HPG หรือชื่อเรียก Alchemist นั้นดูมีแนวโน้มที่น่าจะดีขึ้นอย่างมาก
ที่มา:
Techspot.com
