หลังจากที่โดนสหรัฐกดดันในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีชิปเซมิคอนดักเตอร์มาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจีนก็เริ่มเดินหน้าอีกครั้งเพื่อผลักดันการผลิตในระดับ High-end ภายในประเทศ
- ABB ลงทุน 150 ล้านดอลลาร์ เปิดตัวโรงงานผลิตหุ่นยนต์ใหม่ในจีน
- จีนทดลองระบบ Hyperloop สำเร็จ เตรียมทำความเร็ว 1,000 กม./ชม.
- จีนอุดรูรั่วแรงงานด้วยหุ่นยนต์ Bloomberg ชี้ในท้ายที่สุด ‘คนที่ใช่’ ก็ยังขาดแคลนอยู่ดี
โดยในวันพุธที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมานั้น หลี่ เฉียง (Li Qiang) นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีนได้ประกาศนโยบายสนับสนุนการผลิตขั้นสูงหรือ Advance Manufacturing เพื่อเสริมความเข้มแข็งของการผลิตในประเทศจีน
จีนมุ่งเสริมฐานภาคอุตสาหกรรมในประเทศ
ที่ผ่านมาหลายท่านคงจะได้เห็นข่าวการกดดันประเทศจีนของสหรัฐอเมริกาที่พยายามจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของจีน ด้วยเหตุผลทางด้านความมั่นคงระดับชาติของอเมริกา
โดยสาเหตุหลักของการห้ามส่งออกเทคโนโลยีไปยังจีนนั้นก็มาจากการป้องกันไม่ให้จีนนำเอาเทคโนโลยีชิปขั้นสูงไปใช้ในทางการทหารหรือนำไปออกแบบอาวุธได้ ซึ่งทางสหรัฐก็ได้มีข้อกำหนดสำหรับบริษัทภายในประเทศที่ต้องการส่งออกเทคโนโลยีไปยังจีนและยังได้ขอความร่วมมือจากหลาย ๆ ประเทศในการห้ามส่งออกเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็น เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และไต้หวัน
หลี่ เฉียง จึงได้ออกมาพูดถึงสถานการณ์ที่ซับซ้อนระหว่างประเทศนี้ ว่าการกดดันของสหรัฐได้ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของจีนต้องเผชิญกับจุดเปลี่ยนผันครั้งใหญ่ และจำเป็นจะต้องเสริมสร้างฐานความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมให้มากขึ้นกว่าเดิม
ทำให้จีนเลือกที่จะมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในด้านกฎหมายและการทำธุรกิจระหว่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างนโยบายที่ช่วยผลักดันการผลิตแบบ Advance Manufacturing ที่จะต้องเปลี่ยนมาเน้นการพึ่งพาตนเองภายในประเทศแทนการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างชาติ
คงต้องบอกว่าตัวเลือกของจีนในปัจจุบันคงจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดภายใต้สถานการณ์ที่สหรัฐอเมริกาเลือกที่จะกดดันการส่งมอบเทคโนโลยีระดับ High-end ให้เช่นนี้ ซึ่งหลังจากนี้ก็คงต้องรอติดตามสถานการณ์กันต่อไปว่าสหรัฐและจีนจะมีมาตรการแบบไหนออกมาเร่งแข่งขันกันพัฒนาการผลิตภายในประเทศกันอีกครับ