Saturday, November 23Modern Manufacturing
×

BITCOIN สกุลเงินดิจิทัลที่ผู้ประกอบการต้องรู้

นับเป็นเวลานานมาแล้วที่มนุษย์เราใช้เงินตรามาเป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการต่างๆ แม้วิวัฒนาการของเงินนั้น เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยแต่เป้าประสงค์ก็ยังคงอยู่ในสถานะเพื่อการแลกเปลี่ยนอยู่ดี จริงอยู่ว่าเราสามารถนำสิ่งมีค่าอื่นมาใช้แทนเงินได้ แต่หากมองในแง่ของความสะดวกสบายแล้ว เงินตราก็ยังคงเป็นตัวกลางที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนได้ดีกว่าสิ่งอื่นเป็นอย่างมาก

BITCOIN สกุลเงินดิจิทัลที่ผู้ประกอบการต้องรู้

จากการที่แต่ละประเทศมีสกุลเงินเป็นของตนเองทั้งยังมีการกำหนดนโยบายทางการเงินโดยเอกเทศ ทำให้เกิดกฎกติกาว่าด้วยเรื่องการเทียบค่าเงิน ทั้งยังได้มีการประกาศอัตราการแลกเปลี่ยนให้แต่ละประเทศทราบโดยทั่วถึงกัน จะมีบางประเทศที่อาจใช้สกุลเงินของประเทศอื่น เช่น ประเทศที่เคยตกเป็นอาณานิคมให้กับประเทศใหญ่มาก่อน หรือประเทศที่ขอแยกออกจากราชอาณาจักรเดิมที่เคยถูกครอบครอง เป็นต้น

ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนด้วยเงินตรานั้น หากผู้ซื้อและผู้ขายอยู่ห่างกันเป็นระยะทางไกลๆ การเดินทางเพื่อติดต่อซื้อขายแบบเห็นหน้าค่าตากันอาจไม่สะดวกเท่าใดนัก นอกจากผู้ซื้อกับผู้ขายจะต้องเสียเวลามาพบปะกันแล้ว วัตถุที่ใช้เป็นตัวแทนของเงินอาจชำรุดหรือสูญหายได้ จึงได้เกิดองค์กรตัวกลางทางการเงินที่เรียกว่าธนาคารขึ้น ทำให้ผู้คนอาศัยธนาคารเป็นคนกลางในการจัดการด้านการเงินให้ ทั้งในเรื่องการฝาก ถอน โอน หรือแม้แต่การกู้ยืม ธนาคารก็สามารถดำเนินการให้ได้ อย่างไรก็ตาม กิจการธนาคารก็คือองค์กรธุรกิจประเภทหนึ่ง ซึ่งย่อมต้องแสวงหาผลกำไรเป็นธรรมดา ดังนั้น ค่าธรรมเนียมหรือค่าดำเนินการจากธุรกรรมที่เกิดขึ้นโดยผู้ใช้บริการ จึงถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่เฉพาะแต่การโอนเงินเท่านั้น ในบางประเทศแม้แต่การฝากเงินก็ยังต้องเสียค่าธรรมเนียม

อย่างที่ทราบกันดีว่าการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตนั้นได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้ซื้อผู้ขายได้รับความสะดวกสบายมากกว่าการซื้อขายแบบเดิมที่ต้องติดต่อซื้อขายกันโดยตรง เริ่มตั้งแต่การค้นหาสินค้าหรือการเลือกสรรสินค้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบคุณภาพและราคาได้ง่าย รวมไปถึงการสั่งซื้อก็ทำได้ง่ายๆ เพียงคลิกเมาส์ไม่กี่คลิกเท่านั้น อย่างไรก็ตาม กระบวนการซื้อขายส่วนใหญ่ก็จำเป็นจะต้องใช้ธนาคารมาเป็นตัวกลาง (Payment Gateway) สำหรับโอนเงินอยู่ดี แม้ปัจจุบันจะมีการนำเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันเรียกว่า Fintech มาช่วยในการทำธุรกรรมโดยไม่จำเป็นต้องผ่านธนาคารแต่ก็ยังคงเป็นช่วงเริ่มต้นของเทคโนโลยีนี้เท่านั่้น

เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดการโจมตีครั้งสำคัญจากผู้ไม่ประสงค์ดีด้านไซเบอร์ขึ้น โดยการโจมตีในครั้งนี้มาในรูปแบบของ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ไฟล์ที่มีชื่อเรียกว่า Wannacry Ransomware ซึ่งการโจมตีจะมุ่งไปที่คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดว์สที่ไม่ได้มีการอัปเดตระบบป้องกัน เมื่อผู้เคราะห์ร้ายติดมัลแวร์ชนิดนี้ก็จะทำให้ไม่สามารถเรียกใช้งานไฟล์เอกสารใดๆ ได้เลยจนกว่าจะยอมจ่ายเงินให้กับผู้ที่สร้างมัลแวร์ตัวนี้ขึ้นมา จากรายงานพบว่ามีคอมพิวเตอร์ติด Wannacry Ransomware เป็นจำนวนมากและหลายแห่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่ เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นที่จะแก้ปัญหานี้ได้ก็จำเป็นจะต้องจ่ายเงินไป ทว่าเงินที่คนร้ายต้องการกลับไม่ใช่เงินสกุลปกติที่คนทั่วไปใช้ แต่เป็นเงินดิจิทัลที่มีชื่อว่า Bitcoin ซึ่งเป็นเงินที่ไม่สามารถจับต้องได้ ดังนั้น ผู้เคราะห์ร้ายจึงต้องใช้เงินจริงไปแลกซื้อ Bitcoin มาก่อน แล้วจึงนำไปจ่ายค่าไถ่ให้กับผู้ร้ายจึงจะได้รหัสผ่านมาแก้ไขเพื่อให้ใช้งานไฟล์เอกสารที่มีปัญหาได้

นั่นเป็นครั้งแรกที่สาธารณชนได้รู้จักกับสกุลเงินดิจิทัลที่มีชื่อว่า Bitcoin อันที่จริงแล้ว Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้มีการนำมาใช้งานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 หรือเมื่อเกือบ 8 ปีมาแล้ว กล่าวกันว่าผู้ให้กำเนิดเงินสกุลนี้ก็คือ Satoshi Nakamoto ซึ่งจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครเคยเห็นตัวจริง แม้จะมีคนกล่าวอ้างว่าเป็นบุคคลดังกล่าวแต่ก็ยังไม่มีใครหรือสื่อใดปักใจเชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์

ในทางเทคนิค Bitcoin เป็นเงินสกุลดิจิทัลที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า Crypto Currency แน่นอนว่า Crypto Currency ไม่ได้มีแต่ Bitcoin เท่านั้น แต่ยังมีเงินดิจิทัลสกุลอื่นๆ ที่สามารถนำมาใช้แลกเปลี่ยนซื้อขายได้เช่นเดียวกันกับ Bitcoin ไม่ว่าจะเป็น LiteCoin, DarkCoin DodgeCoin หรือ PrimeCoin เป็นต้น เพียงแต่ Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมมากที่สุด และไม่ว่าจะเป็นเงินดิจิทัลสกุลใดก็ตาม เป้าประสงค์สำคัญของการมี Crypto Currency นั้นก็เพื่อที่จะให้ผู้ที่ถือเงินดิจิทัลสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างเช่นธนาคารหรือองค์กรใดๆ อย่างที่เป็นกันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งก็จะปิดค่าใช้จ่ายที่มาจากการเก็บค่าธรรมเนียมไปโดยปริยาย

ปัจจุบัน Bitcoin ได้ถูกนำมาใช้เป็นตัวกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนจริงในธุรกิจขนาดใหญ่กันบ้างแล้ว โดยเฉพาะทางฝั่งอเมริกาและยุโรป เช่น ธนาคาร Western Union หรือ Paypal เป็นต้น สำหรับประเทศไทยนั้นก็ได้เปิดรับเงินดิจิทัลสกุลต่างๆ มากขึ้น แม้ว่าทางภาครัฐจะยังไม่ได้ประกาศให้ใช้เงินสกุลดังกล่าวอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีการศึกษาเพื่อเตรียมการสำหรับเงินสกุลดิจิทัลเอาไว้บ้างแล้ว และสิ่งสำคัญที่ทำให้ Bitcoin ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากจะไม่ต้องใช้องค์กรด้านการเงินมาเป็นตัวกลางแล้ว Bitcoin ยังอาศัยระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูงสุดอย่าง Blockchain อีกด้วย และ Blockchain นี่เองคือกลไกสำคัญสูงสุดที่นำมาใช้ควบคุมการแลกเปลี่ยน Crypto Currency ได้อย่างสมบูรณ์

เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ที่จำเป็นจะต้องมีหน่วยเพื่อระบุว่าเป็นเงินสกุลอะไร เช่น THB, USD, JPY หรือ GBP เป็นต้น สำหรับ Bitcoin นั้นจะมีหน่วยเงินที่ใช้เป็น BTC ซึ่งสามารถเทียบมูลค่าได้ ดังนี้

หน่วยเงิน Bitcoin

สำหรับท่านผู้ประกอบการที่ต้องการทราบว่าอัตราการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลกับเงินปกติ ณ ปัจจุบันเป็นเท่าใดก็สามารถที่จะเข้าไปติดตามดูข้อมูลที่เว็บไซต์บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น coins.co.th, bx.in.th หรือ bitcoin.co.th เป็นต้น

จากความร้อนแรงของ Bitcoin ผู้ประกอบการจึงควรจับตามอง และศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับเงินสกุลนี้และเงินสกุลดิจิทัลอื่นๆ รวมไปถึงการวางแผนเตรียมการรับมือไว้เอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะไม่แน่ว่าในอนาคตเงินสกุลดิจิทัลอาจเข้ามาแทนที่เงินสกุลเดิมที่เคยใช้กันอยู่ก็เป็นได้

EXECUTIVE SUMMARY

Currently, Bitcoin has already been used as the medium for actual trade in some big size business particularly for America and Europe such as Western Union Bank, or Paypal, etc. In addition, Thailand has started to accept more digital currencies even though government has not officially announced the use of such currencies, but some studies and preparation has currently been made to take up digital currency trend in near future. However, important thing to make Bitcoin to gain more popularity is because it does not need financial organization as the medium, and this currency uses data exchange system that has highest safety as called Blockchain. In addition, Blockchain is the key mechanism that is used to perfectly control Crypto Currency Exchange.

This is similar to other currencies that must have their own unit to indicate what currency they are, such as THB, USD, JPY or GBP, etc. In addition to Bitcoin, its currency is represented as BTC, which can be compared its value as follows

1 BTC = 100,000,000 Satoshis
1 mBTC = 100,000 Satoshis
1 BTC = 1000 mBTC (milli-bitcoins)
1 µBTC (micro-bitcoin) = 100 Satoshis

For entrepreneurs needing to know the current exchange rate between digital and common currencies, they can choose to visit digital currency trading websites such as coins.co.th, bx.in.th, or bitcoin.co.th, etc.

READ MORE

Notice: Undefined index: popup_cookie_abzql in /home/mmthaixaulinbx/webapps/mmthailand/wp-content/plugins/cardoza-facebook-like-box/cardoza_facebook_like_box.php on line 924