AstraZeneca บริษัทผู้ผลิตวัคซีนสัญชาติอังกฤษ-สวีเดนอยู่ในช่วงเจรจาย้ายโรงงานการผลิตวัคซีนสำหรับไวรัส COVID-19 ที่กำลังมีปัญหาในบริเวณใกล้บัลติมอร์ สู่บริษัทผู้ผลิตยา Catalent
บริษัท Catalent ที่มีโอกาสรับช่วงการผลิตต่อนั้นมีการผลิตวัคซีนของ AstraZeneca สำหรับส่งออกที่โรงงานในเมืองฮามานส์ทางด้านทิศใต้ของบัลติมอร์ ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงการปรึกษาเพื่อปรับสายการผลิตวัคซีนให้กับรัฐบาลกลางแทนที่ Emergent BioSolutions ซึ่งถูกบังคับให้หยุดผลิตวัคซีนสำหรับ AstraZeneca เป็นเวลามากกว่า 6 สัปดาห์หลังจากเกิดปัญหาร้ายแรงสำหรับการผลิตขึ้น
AstraZeneca นั้นเริ่มต้นหาพันธมิตรสำหรับการผลิตวัคซีนใหม่ตั้งแต่รัฐบาลกลางตัดสินใจว่าบริษัท Emergent ซึ่งรับทุนสำหรับผลิตวัคซีนไปหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากรัฐบาลกลางไม่สามารถทำการผลิตวัคซีน AstraZeneca และ Johnson & Johnson ได้ตามข้อตกลง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น คือ แรงงานของ Emergent ได้ทำให้เกิดการปนเปื้อนขึ้นกับแบทช์ของวัคซีน Johnson & Johnson ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับวัคซีนถึง 15 ล้านโดส
เมื่อการผลิตที่ต้องการความละเอียดอ่อน และมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อชีวิตมนุษย์เกิดปัญหา รัฐบาลกลางตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เหมาะสม และเด็ดขาดในการย้ายโรงงานการผลิต ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงมาตรฐานการผลิตที่ไม่อาจยอมรับได้ และปัญหาที่เกิดขึ้นอาจนำไปสู่ความผิดพลาดในการผลิตแบทช์อื่น ๆ ได้อีกด้วยเช่นกัน
สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ววัคซีน AstraZeneca นั้นเป็นเพียงวัคซีนทางเลือก เนื่องจากในประเทศเองนั้นมีทั้งการผลิตวัคซีนจาก Pfizer, Moderna และ Johnson & Johnson ซึ่งสามารถรองรับได้ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพอยู่แล้ว ทำให้ AstraZeneca นั้นไม่ได้พยายามเข้าถึง FDA เพื่ออนุมัติในการใช้งานในกรณีฉุกเฉินในตอนนี้
นอกเหนือจากการเป็นวัคซีนทางเลือกแล้ว ประธานาธิบดี Joe Biden ได้ให้คำมั่นสัญญาในการแจกจ่างวัคซีน AstraZeneca กว่า 60 ล้านโดส โดยในเดือนที่ผ่านมานั้นพร้อมส่งต่อไปยังประเทศอื่นแล้วถึง 10 ล้านโดส
ที่มา:
Nytimes.com
เนื้อหาที่น่าสนใจ:
ซีเมนส์ช่วยให้ไบโอเอ็นเทคผลิตวัคซีนโควิด-19 ได้เร็วขึ้น