Saturday, November 23Modern Manufacturing
×

Kick Off หยุดพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล ลดปัญหามลพิษ

รองผู้ว่าฯ กทม.แจง เตรียมรับมือสังคมผู้สูงอายุ ชี้ชัดกทม.ประสบปัญหารถติด มลพิษสูง คาดทั่วโลกเตรียมหยุดพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล หวังลดมลพิษ เสริมทัพการบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีและดิจิทัล เพื่อยกระดับเป็นมหานครอัจฉริยะ และเป็นมหานครแห่งความปลอดภัย

คุณทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง Smart Living เพื่อมหานครอัจฉริยะ ในงานซีเคียวเทค ไทยแลนด์ 2018 ว่า การพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นมหานครอัจฉริยะหรือสมาร์ท เมโทร และเป็นมหานครแห่งความปลอดภัย หรือ เซฟ ซิตี้ (Safe City) โดยมุ่งเน้นการพัฒนา Smart Living หรือความเป็นอยู่ของประชาชนในด้านความปลอดภัย สุขภาพ และคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะการเตรียมรับมือกับสังคมผู้สูงอายุในปี 2563 ซึ่งขณะนี้มีผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนแล้ว 9.8 แสนคน คาดว่ากทม.มีผู้สูงอายุ 2 ล้านคน อีก 8 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้น 30% ดังนั้น การส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยี Smart Health หรือการบริการด้านสุขภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้เพิ่มขึ้นก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำไปพร้อมๆ กัน และการส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในภาคประชาชนจะช่วยเติมเต็มช่องว่างสำหรับการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่ขาดการดูแลอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ คุณทวีศักดิ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กทม.ประสบปัญหารถติด เนื่องจากมีรถวิ่งอยู่บนท้องถนนประมาณ 9 ล้านคัน พบว่า ใน 1 ครอบครัวจะมีรถยนต์ 4 คัน จึงนำไปสู่ปัญหารถติดและมลพิษที่มาจากการสันดาปของเครื่องยนต์ ทั้งนี้ ต่างประเทศมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดนิ่ง เช่น สวีเดนได้มีการประกาศนโยบายออกมาว่าในปี 2025 รถทุกคันที่วิ่งบนท้องถนนต้องเป็น EV ขณะที่เยอรมนีได้ตั้งเป้าไว้เช่นกันว่ารถทุกคันต้องเป็น EV ในปี 2030 อย่างไรก็ตาม การที่จะพัฒนาเครื่องยนต์ได้นั้นต้องใช้เวลาประมาณ 7 ปี จึงจะคุ้มทุน คาดว่า 3-4 ปีข้างหน้าจะเริ่มมีการหยุดพัฒนาเครื่องยนต์ประเภทดีเซล เพราะต้องการลดการปล่อยมลพิษ

ทางด้าน ดร.ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กล่าวว่า การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) มีเป้าหมายการพัฒนาเมืองเพื่อการอยู่อาศัยในอนาคต โดยใช้ดิจิทัลเข้ามาช่วยบริหารจัดการ และตรวจสอบให้เป็นเมืองมีประสิทธิภาพและเหมาะสมต่อการอยู่อาศัยในอนาคต DEPA ได้ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนา 77 พื้นที่ใน 77 จังหวัดเป็น Smart City ภายใน 5 ปี โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มตามแผนแม่บทการพัฒนาอัจฉริยะ คือ เมืองน่าอยู่ หรือสมาร์ทซิตี้เมืองเดิม และเมืองใหม่อัจฉริยะ โดยใช้กลไกความร่วมมือจากการลงทุนของภาคเอกชนร่วมกับ BOI และการสนับสนุนของภาครัฐในการให้สิทธิประโยชน์สูงสุดเพื่อผลักดันสมาร์ทซิตี้ของประเทศไทยขึ้นสู่มาตรฐานสากล โดยจุดมุ่งหมายสำคัญ คือ ปี 2565 ประเทศไทยจะเป็นฮับของเมืองอัจฉริยะในภูมิภาค และมีเมืองได้รับรางวัลในระดับสากล

สำหรับงานซีเคียวเทค ไทยแลนด์ 2018 ภายใต้แนวคิด Smart City Safe City จัดโดยบริษัท เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต นิว เอร่า บิสิเนส มีเดีย จำกัด และบริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี. จำกัด ซึ่งจะระหว่างวันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

READ MORE

Notice: Undefined index: popup_cookie_abzql in /home/mmthaixaulinbx/webapps/mmthailand/wp-content/plugins/cardoza-facebook-like-box/cardoza_facebook_like_box.php on line 924