หนึ่งในบริษัทชั้นนำที่มีความพร้อมต่อการรองรับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เป็นผลสืบเนื่องจากอุตสาหกรรม 4.0 ที่เห็นได้อย่างชัดเจน นั่นคือ บริษัท แอดวานซ์เทค คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด โดย คุณ Chaney Ho ประธาน บริษัท แอดวานซ์เทค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เล่าว่า แอดวานซ์เทค ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2526 เป็นผู้นำในการจัดหาผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นนวัตกรรม และอัตโนมัติที่มีความน่าเชื่อถือ แอดวานซ์เทคนำเสนอบูรณการระบบที่ครอบคลุมฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บริการการออกแบบโดยให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า รวมทั้งการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ทั่วโลก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแอดวานซ์เทคเป็นผู้บุกเบิกในการพัฒนา และผลิตแพลตฟอร์มโปรแกรมที่มีคุณภาพ และสมรรถนะสูงอยู่เสมอ
อีกทั้ง มีการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่างใกล้ชิดเพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับแอปพลิเคชันที่มีความหลากหลายเพื่อให้ตอบสนองการใช้งาน ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘ทำให้โลกอัจฉริยะเกิดขึ้นได้จริง’
“บริษัท แอดวานซ์เทค จำกัด มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศไต้หวัน ปัจจุบันมีสำนักงานขายตั้งอยู่ใน 23 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานรวมกันทั่วโลกกว่า 8,000 คน ทั้งนี้ในกระบวนการผลิตจะใช้โรงงานผลิตหลักอยู่ 2 แห่ง คือ จีน และไต้หวัน ในปัจจุบันบริษัทกำลังขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในยุคแห่ง IoT เมืองอัจฉริยะ และอุตสาหกรรม 4.0”
คุณ Chaney กล่าวถึงการบุกเบิกเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2547 โดยได้มองเห็นศักยภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยจากการที่มีประชากรจำนวนมาก รวมถึงโอกาสที่จะได้รับจากนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 ที่ภาครัฐพยายามผลักดันให้เห็นเป็นรูปธรรมและเกิดสัมฤทธิ์ผล
อย่างเต็มรูปแบบ
“จากการที่รัฐบาลของประเทศไทยตั้งเป้าจะก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 อย่างสมบูรณ์ ภายใน 20 ปีต่อจากนี้ ประกอบกับการที่ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมหลักในด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมอาหาร จึงทำให้แอดวานซ์เทคมองเห็นโอกาสมากมายที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย” คุณ Chaney กล่าวเสริม
เลือกใช้เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ สร้างผลลัพธ์เกินคาด
แรงขับเคลื่อนของเทคโนโลยีที่ส่งผลมาจากอุตสาหกรรม 4.0 มีเพิ่มขึ้น องค์ความรู้ทั้งหลายก็จะถูกบูรณาการและปรับเปลี่ยนกระบวนการให้แตกต่างไปจากเดิม มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม มีผลิตภาพมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายและเพิ่มขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการควรมีความตื่นตัวพยายามปรับตัว และเลือกใช้เทคโนโลยีที่ดีเข้ามาช่วยในการปรับกระบวนทัศน์ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของแรงงานในอนาคต
“จากการที่ประชากรในวัยทำงานลดลงเรื่อยๆ รวมทั้งอัตราค่าจ้างแรงงานเพิ่มสูงขึ้น เทคโนโลยีที่เป็นผลสืบเนื่องจากอุตสาหกรรม 4.0 เข้ามามีบทบาทอย่างสำคัญ เนื่องจากอุตสาหกรรม 4.0 มีจุดมุ่งหมายหลักในการเพิ่มผลผลิตประสิทธิภาพ และคุณภาพ โดยที่แอดวานซ์เทคเป็นผู้นำในด้านคอมพิวเตอร์อุตสาหกรรม และการเก็บข้อมูล จึงมีโอกาสที่ดีในการสนับสนุนอุตสาหกรรม 4.0 เนื่องจากหากพูดถึงอุตสาหกรรม 4.0 จะเป็นเรื่องของการเก็บข้อมูล เกตเวย์และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เป็นหลัก ซึ่งเป็นส่วนที่แอดวานซ์เทคมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดีอยู่แล้ว”
“ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ของแอดวานซ์เทคที่สามารถสร้างชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ได้แก่ คอมพิวเตอร์ในกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งในเรื่องนี้แอดวานซ์เทคสามารถขึ้นแท่นเป็นผู้นำในระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยการมีส่วนแบ่งทางการตลาดทั่วโลกกว่า 30% โดยที่ระบบขนส่งมวลชนอย่างโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน และกลุ่มธนาคารของประเทศไทยมีการใช้ผลิตภัณฑ์ของแอดวานซ์เทคกันอย่างแพร่หลาย”
นำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสู่ภาคอุตสาหกรรม
ล่าสุดแอดวานซ์เทคตอกย้ำความเป็นผู้นำด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงสู่ท้องตลาด นั่นคือ
APAX-5580 คอนโทรลไอพีซีประสิทธิภำพสูง ที่ใช้ชิพประมวลผล ซีพียู Intel Core i7/i3 และ Celeron ผลิตภัณฑ์นี้ เป็นแพลตฟอร์มควบคุมแบบเปิดที่เหมาะสำหรับนำไปใช้ร่วมกับโมดูล APAX I/O และมีคุณสมบัติส่วนขยาย I/O ที่ยืดหยุ่น ตัวควบคุม I/O แบบตามเวลาจริง ความสามารถด้านเครือข่ายผ่านอินเทอร์เฟสที่หลากหลาย และสนับสนุนกระแสไฟอินพุทแบบคู่ เพื่อให้มีระบบพลังงานที่ทนทาน
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ยังมีอินเทอร์เฟส Mini PC Express สำหรับการติดต่อแบบไร้สาย และเทคโนโลยี iDoor ของแอดวานซ์เทค APAX-5580 เป็นโซลูชั่นที่ดีที่สุดสำหรับดาต้าเกตเวย์ ตัวรวมช่องสัญญาณ และแอปพลิเคชันดาต้าเซิร์ฟเวอร์การรวมตัวกันอย่างไร้รอยต่อกับ I/O สามารถประหยัดต้นทุนและเติมเต็มขอบเขตที่หลากหลายของโปรเจกต์อัตโนมัติต่างๆ ไม่เพียงเท่านั้น แอดวานซ์เทคได้พัฒนา SRP Solution เพื่อเข้ามาช่วยในกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นกระบวนการจนเสร็จสิ้นการผลิต เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งช่วยอำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการของสายการผลิต ซึ่งโซลูชั่นดังกล่าวได้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การผลิตให้ง่ายมากยิ่งขึ้น
“SRP Solution ถูกออกแบบมาให้ใช้ในงานกับแอปพลิเคชันที่เฉพาะเจาะจง เช่น เราต้องการติดตามสายการผลิตของผลิตภัณฑ์หนึ่ง สิ่งที่เราติดตาม ได้แก่ กระบวนการตั้งแต่การเริ่มต้นของวัตถุดิบ จนเสร็จออกมาเป็นผลิตภัณฑ์นั้น โดยจะติดตามว่ามีผลิตภัณฑ์ที่ถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนเท่าไหร่อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต ซึ่งเราจะดูว่ามีอุปกรณ์อะไรบ้างที่เกี่ยวข้อง เช่น เกตเวย์ หน้าจอแสดงผล ซอฟต์แวร์ เป็นต้น ซึ่งเราจะนำองค์ประกอบเหล่านั้นรวมเข้าไว้ด้วยกันเป็นแพ็คเกจ ซึ่งผู้ใช้งานหากอยู่ในกลุ่มงานเดียวกันก็จะสามารถใช้งานแพ็คเกจที่เราสร้างขึ้นมาได้ทันที เช่น SRP Solution สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น” คุณ Chaney กล่าวเสริม
นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม โซลูชั่น แพลตฟอร์มโปรแกรมต่างๆ ที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณภาพ ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมได้อย่างดีเยี่ยม ได้แก่
- การติดตามสิ่งแวดล้อมโรงงาน เช่น การติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อม การติดตามในด้านฝุ่นละออง และแก๊สที่ติดไฟง่าย การติดตามน้ำเสีย
- ระบบบริหารจัดการพลังงานโรงงาน เช่น ระบบบริหารจัดการพลังงาน ระบบอุปกรณ์อัดอากาศ ระบบระบายอากาศถ่ายเทความร้อน
- เครื่องจักรกลอัตโนมัติ เช่น โซลูชั่นหุ่นยนต์ต่างๆ เซลล์หุ่นยนต์ วิทยาการหุ่นยนต์ที่นำทางด้วยภาพ ระบบจัดตำแหน่งด้วยภาพ การตรวจสอบด้วยแสงอัตโนมัติ อุปกรณ์ทดสอบโดยอัตโนมัติ
- การบูรณการ MES และการสืบทวนการผลิต เช่น ป้ายแสดงอิเล็กทรอนิกส์การผลิตในสถานที่ ระบบการแจ้งเตือนความผิดปกติ การวางแผนการผลิตอัจฉริยะ แพลตฟอร์มโต้ตอบการทำงานในแผนก
- การติดตามเครื่องจักร และการบำรุงรักษาตามที่คาดการณ์ไว้ เช่น การบำรุงรักษาเชิงป้องกันของวงจรชีวิตอุปกรณ์การแจ้งเตือนการทำงานที่ผิดปกติ การตรวจตราทางภาพเคลื่อนไหวระยะไกล และตามเวลาจริง
- การติดตามอุปกรณ์ และการเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น การติดตามตามเวลาจริง การบริหารจัดการสภาพพร้อมใช้งานของอุปกรณ์ แพลตฟอร์มการผลิตอัจฉริยะ การบริหารจัดการอุปกรณ์ปั๊มกด
นึกถึงคอมพิวเตอร์อุตสาหกรรม ต้องนึกถึงแอดวานซ์เทคด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการให้บริการที่ยอดเยี่ยม จึงทำให้แบรนด์แอดวานซ์เทคได้รับความไว้วางใจ และสามารถครองใจลูกค้าได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า ‘หากนึกถึงคอมพิวเตอร์อุตสาหกรรมต้องนึกถึงแอดวานซ์เทค’
“แอดวานซ์เทคมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศไทย ทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว นั่นคือเหตุผลที่ลูกค้าเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของแอดวานซ์เทค
อย่างไรก็ตาม พวกเราจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจตลาด เพราะประเทศต่างๆ มีความต้องการที่แตกต่างกันซึ่งเรามีพนักงานของเราคอยทำความเข้าใจกับความต้องการต่างๆ เหล่านั้น และเรายังมีทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ทำให้เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ เรายังต้องหาวิธีในการผลิตผลิตภัณฑ์ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง ในขณะที่คุณภาพของผลิตภัณฑ์ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อทำให้ลูกค้าของเราได้รับประโยชน์สูงสุด
เพราะหัวใจสำคัญของแอดวานซ์เทคในการดำเนินธุรกิจคือ จะต้องแก้ปัญหาของลูกค้าให้ได้ ต้องเข้าใจในปัญหาของพวกเขา และพยายามแก้ปัญหาเหล่านั้นให้สำเร็จ” คุณ Chaney กล่าวทิ้งท้าย