เครื่องพิมพ์ 3 มิติ เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการผลิตของ SME บริษัทขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งระดับเล็กๆ อย่างเหล่า Maker ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้สามารถใช้วัตถุดิบได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น โลหะ พลาสสติก วัสดุทดแทนต่างๆ MM Thailand ขอพาทุกท่านไปรู้จักกับวัสดุที่ถูกใช้ในเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติซึ่งมีทั้งกลุ่มวัสดุสังเคราะห์และโลหะครับ
กลุ่มวัสดุสังเคราะห์
กลุ่มวัสดุสังเคราะห์สำหรับ 3D Printing ส่วนมากมักพบเห็นได้ในการผลิตชิ้นส่วนของ Maker และชิ้นส่วนในห้องโดยสารของยานพาหนะ รวมถึงชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ใช้การออกแบบพลาสติกที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจง
- ABS
Acrylonitrile Butadiene Styrene (ABS) เป็นพลาสติกแบบเดียวกับที่ใช้ใน Lego ซึ่งมีความแข็งแรงและปราศจากสารพิษ มีความแข็งแรงน้อยกว่า PLA เล็กน้อย มีจุดหลอมเหลวอยู่ที่ 220 องศาเซลเซียส สามารถอ่อนตัวได้ไวและคืนสภาพได้อย่างรวดเร็ว เหมาะกับการใช้งานเครื่องพิมพ์ 3 มิติได้เป็นอย่างดี
- PLA
Polylactic Acid ผลิตจากวัสดุชีวภาพโพลีเมอร์ มีจุดเดือดที่ต่ำอยู่ที่ 60 องศาเซลเซียส วัสดุมีความเหนียวมากกว่า ABS เนื่องจากวัสดุตั้งต้นเป็นวัสดุชีวภาพ เช่น กากข้าวโพด อ้อย ทำให้สามารถสะสมแบคทีเรียได้ สามารถเพิ่มเติมสารเคมีเพื่อเพิ่มคุณสมบัติด้านการทนทานความร้อนและลักษณะของพื้นผิววัสดุได้
- PVA
Polyvinyl Alcohol เป็นวัสดุโพลีเมอร์สังเคราะห์ จุดหลอมละลายอยู่ที่ 200 องศาเซลเซียส หากใช้ความร้อนมากกว่านี้สามารถปล่อยสารพิษออกมาได้ด้วยเช่นกัน ใช้ในการสนับสนุนการสร้างชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนของ PLA และ ABS หลังจากสนับสนุนการวางโครงแล้ว สามารถนำไปสัมผัสกับน้ำเพื่อทำให้ละลายและคงไว้แต่ชิ้นส่วนหลักจาก PLA และ ABS ได้
- Nylon
ไนลอนถือเป็นชิ้นส่วนที่มีความแข็งแรงสูง รองรับน้ำหนักได้มากโดยไม่เกิดความเสียหาย จุดหลอมเหลวอยู่ที่ 250 องศาเซลเซียส และด้วยเหตุนี้เองแม้ไนลอนจะมีราคาถูกและคุณสมบัติครบครันไม่ว่า ความแข็งแรงและการทนทานต่อความเสียหาย ทว่าการใช้ความร้อนที่สูงมากทำให้เป็นปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน
- HDPE
High-Density Polyethylene มักใช้กับวัสดุที่มีการรีไซเคิล ด้วยน้ำหนักที่เบาและคุณสมบัติวัสดุที่สามารถยึดติดกับวัสดุอื่นและตัวเองได้ดี มีจุดหลอมเหลวอยู่ที่ 230 องศาเซลเซียสสามารถใช้ในการสนับสนุนการผลิตด้วยวัสดุชนิดอื่น และมีความต้านทานต่อสารเคมีส่วนมาก
- T-Glase/PETT
Polyethylene Terephthalate มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับโพลีเอสเตอร์ จุดเดือดอยู่ที่ 230 องศาเซลเซียสแต่เวลาเย็นตัวลงให้คุณสมบัติที่คล้ายแก้ว สามารถย้อมสีได้ นอกจากนี้ FDA ยังให้การยอมรับว่าปลอดภัยสำหรับใช้กับอาหารอีกด้วย
- Wood Filament
วัสดุชนิดนี้ไม่ได้ทำมาจากไม้โดยตรงแต่เป็นอนุภาคไม้แบบละเอียดผสมกับ PLA และโพลีเมอร์ เมื่อผลิตชิ้นงานออกมาจะมีลักษณะคล้ายลายไม้ มีลวดลายและลักษณะที่หลากหลาย ใช้วิธีผลิตเดียวกับการใช้ PLA แต่ชิ้นงานที่สำเร็จนั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลเพื่อให้มีลักษณะภายนอกที่สวยงามเหมาะสม
- Metal Filament
วัสดุนี้ คือ ผงโลหะผสมกับ PLA แต่เมื่อผลิตเสร็จแล้วจะมีลักษณะคล้ายกับโลหะ สามารถใช้โลหะผสมได้หลากหลายแบบ เช่น เหล็กกล้า ทองเหลือง ทองแดง จำเป็นต้องมีการตกแต่งผิววัสดุหลังทำการผลิตเสร็จสิ้น
- Carbon Fiber Mix
ความแข็งแรงของคาร์บอนไฟเบอร์เป็นที่รู้จักกันดี หากนำมาผสมผสานกับวัตถุดิบอื่นสามารถเพิ่มคุณสมบัติของชิ้นส่วนได้อีกด้วย จุดเด่นนอกเหนือจากความแข็งแรงแล้วน้ำหนักที่เบาถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง อย่าลืมว่าคาร์บอนไฟเบอร์นั้นสามารถสึกกร่อนได้ง่ายจึงควรเลือกใช้งานวัสดุชนิดนี้ให้ดี
- Conductive Filament
วัสดุนี้เป็นการผสมผสานกันระหว่าง PLA และกราฟีน ก่อให้เกิดวัสดุคาร์บอนที่สามารถเหนี่ยวนำไฟฟ้าได้โดยไม่จำเป็นต้องลากสายไฟฟ้า เหมาะสำหรับใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น อุปกรณ์สวมใส่อิเล็กทรอนิกส์ ในการผลิตต้องระวังปัญหาที่เนื้อวัสดุแต่ละชั้นอาจไม่ประสานกันได้สมบูรณ์แตกต่างจาก PLA ทั่วไป และการทำให้วัสดุบิดงอหลังการผลิตอาจทำให้ไม่สามารถนำไฟฟ้าได้
กลุ่มวัสดุโลหะ
ชิ้นส่วนสำหรับ 3D Printing กลุ่มวัสดุโลหะต้องการความแข็งแรง ทนทานต่อความร้อน และการใช้งานที่สมบุสมบัน เช่น ชิ้นส่วนอากาศยานที่มีความซับซ้อน
ก. ผงโลหะ
- Stainless Steel
สเตนเลสตีลเป็นโลหะที่มีการใช้งานอยู่บ่อยครั้งในอุตสาหกรรม มีคุณสมบัติที่ทดต่อการกัดกร่อนและสารเคมีได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถใช้งานในอุตสาหกรรมอาหารได้
- Aluminum Alloy
อะลูมินิมอัลลอยนิยมใช้ในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภทโดยเฉพาะอากาศยาน ด้วยความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบาจึงกลายมาเป็นจุดเด่นของวัสดุชนิดนี้
- Cobalt Chrome Alloy
จุดเด่นของโคบอลท์โครมอัลลอย ตือ ความสามารถอันยอดเยี่ยมในการต้านทานอุณหภูมิ การกัดกร่อนและการสึกหรอ เหมาะสำหรับการผลิตชิ้นส่วนเครื่องมือแพทย์ สามารถใช้ได้กับสิ่งมีชีวิต
- Titanium Alloy
คุณสมบัติของไทเทเนียมนั้นมีหลากหลายและมีคุณภาพสูง สามารถระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มักใช้ในการผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์สมรรถนะสูงสำหรับแข่งขัน หรือเครื่อวยนต์สำหรับอากาศยาน
- Nickle-Based Alloy
คุณสมบัติของโลหะที่ผสมนิกเกิล คือ ทนต่อแรงกดดัน อุณหภูมิ และสารเคมีได้เป็นอย่างดี นิยมใช้ในการผลิตชชิ้นส่วนกังหันแก็ส เครื่องยนต์เจ็ท หรือเครื่องมือสำหรับงานปิโตรเคมี
ข. โลหะเหลว
มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับการใช้ผงโลหะเพียงแต่มีความแข็งแรงสูงกว่า ทั้งยังใช้เวลาในการผลิตที่น้อยลงเมื่อเทียบกับการผลิตโดยเครื่องจักร CNC ด้วยคุณสมบัติอันละเอียดระดับนาโนทำให้มีการยึดเกาะกันระหว่างอนุภาคเมื่อเทียบกับการผลิตแบบ Subtractive Manufacturing แล้วมีผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน
การเลือกใช้งานวัสดุสำหรับ 3D Printing จำเป็นต้องศึกษาและให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อจำกัดของการใช้งานจริงที่เกิดขึ้น เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพการใช้งานที่เกิดความคุ้มค่าสูงสุด หากสนใจตัวอย่างการใช้งานวัสดุสำหรับเครื่องพิมพ์สามมิติสามารถรับชมคลิปได้ท้ายบทความ
แข็งแกร่ง! 3D Printer สร้างชิ้นส่วนจากคาร์บอนไฟเบอร์3D Printing เป็นเทคโนโลยีขึ้นรูปวัสดุที่ลดต้นทุนได้มากในปัจจุบันแต่มักถูกมองว่ามีปัญหาด้านความแข็งแรง แต่ถ้าสามารถใช้ผลิตวัสดุจากคาร์บอนไฟเบอร์ได้ล่ะ? และถ้ายังสามารถผสมวัตถุดิบอื่นเข้าไปด้วยได้อีก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเครื่องพิมพ์ 3 มิติจาก Markforged สามารถตอบความต้องการเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ยังสามารถลดเวลาการผลิตแบบเดิมจากเครื่อง CNC ลงได้อีกด้วย ติดตามในรายการ Factory Choice ได้เลยครับ!
โพสต์โดย MM Modern Manufacturing เมื่อ วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2018
อ้างอิง:
- https://www.tomsguide.com/us/3d-printing-materials,news24392.html
- https://www.ge.com/additive/additive-manufacturing/information/metal-additive-manufacturing-materials
- http://www.dtic.mil/dtic/tr/fulltext/u2/1043719.pdf