หากย้อนไป 20 ปีที่แล้วหลายคนอาจไม่คิดว่าจีนจะผงาดเช่นทุกวันนี้ สินค้า ‘จีนแดง’ มักถูกมองเป็นของเกรดล่าง แต่ปัจจุบันจีนกลายเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก และผู้ผลิตสินค้าชั้นนำต่างพาตบเท้าลงทุนการผลิตที่ประเทศจีนทั้งนั้น ทำให้จีนครองสัดส่วน GDP ถึง 50% MM Thailand ขอพาทุกท่านมารู้จักกับอุตสาหกรรมจีนในยุคปัจจุบันกันครับ
ด้วยพื้นที่ภูมิประเทศที่กว้างขวางรวมถึงประชากรจำนวนมากถึง 1,412,193,126 คน ในปี 1978 เติ้งเสี่ยวผิงปฏิรูปประเทศโดยการเยือนประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ไทย สิงคโปร์ และได้ลงความเห็นว่าการที่จีนจะเติบโตได้นั้นจำเป็นต้องเปิดประเทศ สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนจากต่างชาติโดยเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ 4 พื้นที่ ได้แก่ เซินเจิ้น จูไห่ ซัวเถา และเซียเหมิน ทำให้จากเดิมที่การผลิตมักจะอยู่ในภูมิภาคที่ตั้งเดียวกับบริษัทแม่เห็นความคุ้มค่าในการย้ายฐานผลิตซึ่งจีนมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ จำนวนแรงงานมากมาย และที่สำคัญ คือ การส่งออกสินค้าจะไม่มีการเสียภาษีทำให้สะดวกต่อการส่งสินค้าไปยังประเทศต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
ปัจจุบันจีนกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมหลักของโลก ดึงดูดนักลงทุนและการผลิตหลากหลายรูปแบบ ก่อให้เกิดนวัตกรรมและการพัฒนาขึ้นจากการส่งผ่านเทคโนโลยี เมื่อมีผู้ผลิตจำนวนมากอัดแน่นอยู่รวมกันทำให้เกิดพื้นที่คลัสเตอร์ สร้างความพร้อมไม่ว่าจะเป็นแรงงาน วัตถุดิบ เทคโนโลยี ทั้งยังมีการควบคุมคุณภาพโดยบริษัทแม่ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ ทำให้สินค้าจากจีนมีมาตรฐานใกล้เคียงกับการผลิตเดิมหรือในหลายรายมีคุณภาพดีกว่า ซึ่งเมืองอุตสาหกรรมที่น่าจับตามองที่สุดตอนนี้ คือ เมืองเซินเจิ้น
เมืองเซินเจิ้นเรียกได้ว่าเป็นเมืองที่เติบโตไวที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของโลก เซินเจิ้นเต็มไปด้วยศูนย์วิจัยจากผู้ผลิตชั้นนำต่างๆ อาทิ ซัมซุง ไมโครซอฟท์ แคนอน รวมถึงโซนี่ หรือ 90% ของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในโลกผลิตขึ้นที่เซินเจิ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีชั้นดีแล้วคนทั่วไปยังสามารถหาซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบายคล้ายกับบ้านหม้อบ้านเรา เพียงแต่มีของที่ครบกว่าและพื้นที่ใหญ่กว่า
ประเทศจีนสามารถคิดค้นและผลิตสินค้าได้ไวกว่าฝั่งตะวันตกซึ่งหลายครั้งไม่สามารถนำออกสู่ตลาดก่อนได้เพราะติดปัญหาเรื่องข้อกำหนดบางอย่าง ในปัจจุบันต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นจากแรงงานผู้ผลิตหลายรายหันมาใช้หุ่นยนต์เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ในขณะที่ต้นทุนด้านชิ้นส่วนหรือวัสดุยังคงมีราคาไม่สูงมากเนื่องจากคลัสเตอร์ผู้ผลิตในพื้นที่ช่วยลดต้นทุนดังกล่าวลงได้อย่างมาก
ด้วยการกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงของเติ้งเสี่ยวผิงทำให้ประเทศจีนเปลี่ยนโฉมหน้ากลายเป็นประเทศที่มั่งคั่งในช่วงเวลาไม่กี่สิบปี ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมที่ทัดเทียมและพร้อมจะก้าวข้ามโลกตะวันตกไปได้ในพริบตา
ที่มา:
- http://www.worldometers.info/world-population/china-population/