ของเล่นตัวบล็อกประกอบอย่าง LEGO นั้นจะมีชิ้นส่วนบล็อกมาตรฐาน เพียงแค่หาชิ้นส่วนมาตรฐานตามที่ต้องการก็สามารถประกอบออกมาเป็นอะไรก็ได้ เช่น รถ เครื่องบิน บ้าน รางรถไฟ นั่นทำให้การออกแบบแม่พิมพ์เพื่อส่งต่อคุณค่าที่เกิดจากฟังก์ชันจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบมากกว่าแค่ประเด็นของคุณภาพ
ในการสร้างแม่พิมพ์ก็เช่นเดียวกัน การเลือกใช้ชิ้นส่วนมาตรฐานที่เหมาะสมจึงเป็นการประหยัดทั้งต้นทุนและเวลา ไม่ต้องพยายามผลิตชิ้นส่วนเฉพาะความต้องการมาขึ้นใหม่ซึ่งอาจจะทำให้ทั้งต้นทุนและเวลาบานปลาย บริษัทผลิตชิ้นส่วนมาตรฐานสำหรับแม่พิมพ์ที่มีความหลากหลายอย่าง ‘Meusburger’ จึงสามารถตอบสนองเงื่อนไขที่เกิดขึ้นได้ในทุกขนาดและความต้องการของผู้ผลิต
ชิ้นส่วนมาตรฐานคุณภาพสูงจาก Meusburger สร้างความน่าเชื่อถือในวงการผลิตแม่พิมพ์ และผู้ผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ เพราะถูกพิสูจน์แล้วว่าสามารถประหยัดต้นทุนได้เป็นอย่างมากด้วยตัวเลขที่ชัดเจน
(ที่มา: Meusburger)
เมื่อยุคสมัยนั้นเปลี่ยนไป ความกดดันทางการแข่งขันของผู้ผลิตแม่พิมพ์นั้นก็ได้เพิ่มขึ้นตามการเปลี่ยนแปลง ทว่าก็ยังมีโอกาสทำกำไรจากการสั่งซื้อในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกันวงล้อแห่งนวัตกรรมก็หมุนเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องอาศัยความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่นที่มากขึ้น สอดคล้องไปกับต้นทุนที่สูงและความกดดันด้านเวลาที่บังคับให้บริษัทต่าง ๆ ต้องปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการควบคุมต้นทุนจะสูงที่สุดในระหว่างขั้นตอนการออกแบบ การสร้างมาตรฐานกระบวนการและผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยประหยัดต้นทุนและเวลาได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นการสร้างพื้นฐานที่สำคัญสำหรับความสำเร็จของบริษัทในระยะยาวด้วย
ในวงจรผลิตภัณฑ์ของแม่พิมพ์จำเป็นต้องมองภาพรวมของต้นทุนตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ ควรพิจารณาในเรื่องของการประหยัดที่เป็นไปได้ตั้งแต่ต้น การใช้ชิ้นส่วนมาตรฐานมีผลกระทบเชิงบวกต่อต้นทุนโดยรวม ตัวอย่างของคำถามสำคัญที่ควรคำนึงถึง คือ ส่วนประกอบของแม่พิมพ์ใดที่ทำให้เป็นมาตรฐานได้บ้าง? ถ้ามี มีความเป็นไปได้อะไรบ้างที่จะกลับไปใช้ชิ้นส่วนมาตรฐานหรือแนวคิดของชุดแม่พิมพ์ภายในบริษัท? หรือชิ้นส่วนเหล่านี้สามารถซื้อจากผู้ผลิตชิ้นส่วนมาตรฐานจากภายนอกได้หรือไม่?
Meusburger มีชุดแม่พิมพ์ที่ครอบคลุมความต้องการอย่างหลากหลาย ลูกค้าสามารถหาโซลูชันที่ใช่ตามความต้องการได้ โดยใช้ Die Set Wizards ของ Meusburger เพื่อช่วยในการเลือกเพลทและส่วนประกอบที่เหมาะสม อีกทั้งยังสร้างชุดแม่พิมพ์สำเร็จได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง ลูกค้าจะได้คุณภาพที่ดีที่สุด ความแม่นยำสูงสุด รวมถึงความพร้อมใช้งานอย่างต่อเนื่องเพราะมีสต็อกในคลังสินค้าจึงประหยัดเวลาได้มาก
การเสียรูปที่ลดลงผ่านการใช้ความร้อน ช่วยประหยัดต้นทุน
Meusburger ไม่เพียงแต่ผลิตเพลทเอง ยังมีเตาอบที่มีความจุมากถึง 240 ตันที่ทำให้ได้คุณภาพที่ดีที่สุดของแม่พิมพ์อีกด้วย เนื่องจากวัสดุที่เสียรูปมีอิทธิพลอย่างมากต่อต้นทุนการผลิตและการบำรุงรักษาของแม่พิมพ์ เหล็กกล้าเกรดสูงเมื่อนำไปอบชุบด้วยความร้อนจะช่วยลดความเค้น รวมถึงรูปแบบและความคลาดเคลื่อนของตำแหน่งที่แน่นอนจะช่วยให้ต้นทุนในการผลิตลดลง
ความแม่นยำ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ระบบแบบ Modular (แยกส่วน) ของชุดแม่พิมพ์ทำให้รวมชุดแม่พิมพ์ได้ไม่จำกัดจำนวน ในขณะที่ยังคงรักษาความถูกต้องแม่นยำและความสม่ำเสมอในระดับสูงสุด นอกจากนี้ Meusburger ยังนำเสนอระบบจับยึด H 3000 ที่ผ่านการทดลองและเชื่อถือได้ ลูกค้าสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ รวมถึงมีความถูกต้องแม่นยำในการทำซ้ำได้อีกด้วย
