เพราะ ‘สหมิตรเครื่องกล’ คืออีกหนึ่งผู้นำด้านการจัดจำหน่ายเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมไทยที่มีความเชี่ยวชาญ ก้าวทันทุกการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการผลิต เหตุนี้เอง ฉบับนี้ เราจึงนำแง่มุมดีๆ จาก คุณพฤทธิ์ สรญาณธนาวุธ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสหมิตรเครื่องกล จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับมุมมองอุตสาหกรรมการผลิตของไทยในอนาคตข้างหน้า และทิศทางการปรับตัวของผู้ประกอบการไทยในปัจจุบันเพื่อให้พร้อมสู่การแข่งขันในตลาดอาเซียน รวมถึงการยกทัพอัปเดตเทรนด์นวัตกรรมเครื่องจักรที่จะนำมาจัดแสดงในงานเมทัลเล็กซ์ 2017 มาฝากกัน
การเติบโตของ ‘สหมิตรเครื่องกล’ ผู้นำด้านอุตสาหกรรมเครื่องจักรกว่า 40 ปี
เมื่อกล่าวถึงชื่อ ‘สหมิตรเครื่องกล’ เชื่อว่า ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมทุกคนต่างยอมรับในความรู้ลึกรู้จริงด้านเครื่องจักรกล เพราะด้วยประสบการณ์ยาวนานมากว่า 44 ปี ร่วมกับการมีฐานลูกค้าในมือกว่า 2 พันราย จึงทำให้สามารถสรุปได้ว่า บริษัทสหมิตรเครื่องกล จำกัด (มหาชน) คือผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยในลำดับต้นๆ จากทุนจดทะเบียนแรกเริ่มเพียง 80,000 บาท ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 550 ล้านบาท
“บริษัทของเราเปิดทำการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 ทุนจดทะเบียนแรกเริ่มแค่ 80,000 บาทเท่านั้น ต่อมาบริษัทก็ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ และเติบโตจนวันนี้เรามีทุนจดทะเบียน 550 ล้านบาท แรกเริ่มเดิมทีผลิตภัณฑ์ของเราเริ่มต้นที่เหล็กแข็งสำหรับทำแม่พิมพ์และเครื่องมือ ผ่านไปจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันสหมิตรมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมและรองรับการเจริญเติบโตของภาคการผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น” คุณพฤทธิ์กล่าว
เปิดมุมมองภาคอุตสาหกรรมการผลิตไทยยุค 4.0
แน่นอนว่าเมื่อประเทศไทยก้าวสู่ยุค Industry 4.0 ระบบการทำงานต่างๆ ของภาคอุตสาหกรรมก็เปลี่ยนแปลงไปทิศทางนี้ด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้คุณพฤทธิ์ได้อธิบายถึงปัจจัยที่ผลักดันให้ผู้ประกอบการก้าวสู่ความเป็น 3.0 – 4.0 อย่างเต็มตัว ซึ่งปัจจัยหลักๆ แบ่งเป็น 2 เรื่อง คือ แรงงานวัยทำงานที่น้อยลง และขนาดของโรงงานที่แตกต่างกัน
“แต่เดิมนั้นจีดีพีประเทศไทยขึ้นอยู่กับภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก แต่ด้วยวัยแรงงานในประเทศลดลง ส่งผลให้แรงงานทุกระดับค่อยๆ หดหายตามไปด้วย
แนวโน้มประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุมากขึ้น คนวัยทำงานน้อยลงในทุกสาขา การผลิตที่เพิ่มขึ้นกับแรงงานคนที่ลดลงจึงสวนทาง จำเป็นต้องนำเข้าแรงงานจากต่างประเทศ ซึ่งไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆ ส่งผลให้แรงงานขาดแคลน ผู้ประกอบการจึงต้องหันมาใช้ระบบอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติเพื่อบริหารจัดการภายในองค์กร ซึ่งผู้ประกอบการที่มีศักยภาพก็คืออุตสาหกรรมขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ เข้าสู่วงจร Industry 4.0 โดยปริยาย”
เมื่อพูดถึง Industry 4.0 ย่อมหมายความว่าทุกอย่างต้องเป็นไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งแน่นอนว่าความล้ำสมัยที่ว่าเครื่องจักรสามารถสื่อสารกันเองได้ ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูง สิ่งนี้ย่อมส่งผลต่ออุตสาหกรรมขนาดเล็กอย่างแน่นอน
“ปีนี้เห็นได้ชัดว่าคนที่ลงทุนเปลี่ยนเครื่องจักร คือ กลุ่มโรงงานขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ที่มีเงินลงทุน นอกจากเรื่องเม็ดเงินแล้ว เทคโนโลยีปัจจุบันก็ออกแบบมาให้เครื่องจักรเป็นแบบอัตโนมัติเกือบทั้งหมด” คุณพฤทธิ์กล่าว
มั่นใจ ‘สหมิตรเครื่องกล’ รองรับอุตสาหกรรมในอนาคต
หลังจากเอ่ยถึงทิศทางของการเจริญเติบโตในอนาคต คุณพฤทธิ์ ได้พูดถึงการดำเนินงานของ ‘สหมิตรเครื่องกล’ เพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมในอนาคตว่า…
“เพราะรูปแบบอุตสาหกรรมจะเปลี่ยนไปเป็นกึ่งอัตโนมัติหรืออัตโนมัติทั้งหมด เครื่องจักรที่เรามีเป็นเครื่องจักรที่ล้วนแต่รองรับเทคโนโลยีเหล่านี้พร้อมแล้ว ร่วมกับซัพพลายเออร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก มี Know How แน่น เมื่อมาเชื่อมโยงกับความต้องการของผู้ประกอบการที่มองหาสิ่งที่เป็นระบบอัตโนมัติหรือออโตเมชั่นเต็มรูปแบบเราจึงพร้อมนำเสนอในรูปแบบครบวงจร (Turnkey Solution)
โดยเครื่องจักรที่เรามีก็จะเป็นระบบออโตเมชั่นที่มีความ Flexible คือมีความยืดหยุ่นสูง ทั้งมีซอฟต์แวร์ที่สั่งการให้ออโตเมชั่นต่างๆ ทำงานกับเครื่องที่มีหน้าที่ไม่เหมือนกันได้ สามารถนำงานมิลลิ่งย้ายไปเครื่องมือวัด เมื่อวัดเสร็จพบว่าขนาดผิดไปก็ย้ายมาเข้าคิวรอเครื่องมิลลิ่งใหม่ เป็นระบบอัตโนมัติที่ลิงค์ถึงกันได้
อย่างไรก็ตาม แม้นวัตกรรมจะสำคัญที่สุด แต่หัวใจหลักก็คือความยืดหยุ่นในการผลิตซึ่งเครื่องจักรต้องเป็นหลัก การทำงานรูปแบบออโตเมชั่นโดยอาศัยความชาญฉลาดของซอฟต์แวร์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสหมิตรเครื่องกลมีผลิตภัณฑ์เครื่องจักรอุตสาหกรรมเหล่านี้รองรับพร้อมแล้ว”
METALEX 2017 มากกว่าอัปเดตเทคโนโลยีคือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับไฮไลท์ที่สหมิตรเครื่องกลจะนำไปจัดแสดงนั้น คุณพฤทธิ์กล่าวว่า ต้องขนขบวนเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปให้ผู้ร่วมงานได้ชมอย่างจุใจเช่นทุกปีที่ผ่านมา โดยจะเน้นไปที่ระบบออโตเมชั่นที่สอดคล้องกับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม
“แน่นอนว่างานเมทัลเล็กซ์ 2017 สหมิตรเครื่องกลจะขนขบวนเทคโนโลยีต่างๆ ไปทั้งหมด เพราะลูกค้าทุกคนมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าขนาดกลาง ขนาดใหญ่ หรือแม้แต่ขนาดเล็ก เพราะต้องยอมรับว่า SME ก็มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไม่ต่างกัน ดังนั้น นอกจากการไปนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดแล้วก็ต้องการไปพบปะกับลูกค้าเก่า ลูกค้าปัจจุบัน และผู้เข้าชมงานที่สนใจกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วย
ไฮไลท์เครื่องจักรจึงมีหลากหลาย แต่ที่แน่ๆ ก็คือ GF Machining Solution (GF MS) และ System 3R (Automation) จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ที่เป็นระบบอัจฉริยะ คนมีหน้าที่แค่คอยมอนิเตอร์เพียงอย่างเดียว หรือแม้แต่เครื่องจักรรุ่นใหม่ๆ ที่มีเสาอากาศรับสัญญาณ WIFI ออนไลน์สั่งงานจากสมาร์ทโฟน ผ่านแอปพลิเคชันก็มีไปให้ได้ชมเหมือนกัน ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้เองสอดรับกับ Industry 4.0 ได้เป็นอย่างดี” คุณพฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ประกอบการและผู้สนใจอัปเดตนวัตกรรมเครื่องจักรที่ทาง บริษัท สหมิตรเครื่องกล จำกัด (มหาชน) จะขนขบวนมานำเสนอก็สามารถเข้าร่วมอัปเดตได้ในงาน METALEX 2017 ระหว่างวันที่ 22 – 25 พฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา รับรอง… ไม่ผิดหวังแน่นอน
|