Thursday, October 31Modern Manufacturing
×

ตามติด NEPCON VIETNAM 2017 ตามติดเทคโนโลยีการผลิตในเวียดนาม

เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศเวียดนามเป็นประเทศในกลุ่มอาเซียนที่มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งเป็นฐานการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก และเป็นฐานการผลิตที่จำหน่ายให้กับประชากรในเวียดนามด้วยกันเอง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น

NEPCON VIETNAM 2017

การสนับสนุนจากภาครัฐบาลของเวียดนามเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญอย่างยิ่ง ทั้งการส่งเสริมการลงทุนทางด้านภาษี และเงินลงทุน ในขณะนี้ผู้ประกอบการเองก็ต้องเพิ่มพูนความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองอยู่ตลอดเวลา และงาน NEPCON VIETNAM 2017 ซึ่งจัดโดย บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด ก็เป็นหนึ่งในเวทีของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งเทคโนโลยีและองค์ความรู้ และเรียกได้ว่าเป็นงานแสดงเทคโนโลยีและสินค้าอุตสาหกรรมหนึ่งเดียวในเวียดนามทางด้าน SMT, Testing Technologies, Equipment and Supporting Industries for Electronics Manufacturing

ยอดผู้เข้าชมเพิ่มขึ้น 32%

คุณอิสระ บุรินทรามาตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด เปิดเผยว่าในปีนี้ยอดผู้เข้าชมงาน NEPCON VIETNAM 2017 ที่เมืองฮานอยนั้น พบว่ามียอดเพิ่มขึ้น 32% โดยในปี 2015 ยอดรวม 5,784 และในปี 2017 นี้ ยอดรวม คือ 7,653 โดยกลยุทธ์จัดเอ็กซ์ฮิบิชั่นรุกอุตสาหกรรมสนับสนุนในเวียดนาม ในปีนี้เน้นด้านการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพิ่มโอกาสให้ผู้แสดงสินค้าและผู้ซื้อได้พบปะและเจรจาธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพตรงเป้าหมายร่วมกันมากที่สุด เสริมด้วยเครื่องมือดิจิทัล ผ่านช่องทางเว็บไซต์ Social Media Application บน Smart Phone และฐานข้อมูลกลุ่มผู้ซื้อและผู้ขายที่มีประสิทธิภาพ

ตามติด NEPCON VIETNAM 2017 ตามติดเทคโนโลยีการผลิตในเวียดนาม

สำหรับโอกาสทางธุรกิจของไทยในเวียดนาม คุณอิสระมองว่า ยังเปิดกว้างอยู่มาก ประเมินจากอัตราการเติบโตของบริษัทฯ โดยในปี 2017 จัดงานในเวียดนาม 7 โชว์ สัดส่วนรายได้คิดเป็น 12% ของรายได้ทั้งหมด โดยคาดว่าในปี 2018 อัตราเติบโตอยู่ที่ประมาณ 14% ด้วยการเพิ่มเติมจำนวนงานขยายสู่กลุ่มสินค้าใหม่ๆ

“ปัจจุบันรี้ด เทรดเด็กซ์ นับเป็นผู้จัดงานแสดงสินค้าอันดับหนึ่งในเวียดนาม ด้วยข้อจำกัดในเรื่องขนาดของพื้นที่ฮอลล์ ทำให้ไม่สามารถขยายขนาดของงานได้ ต้องขยายด้วยการเพิ่มจำนวนการจัดงาน โดยจะเพิ่มเติมการจัดงานในกลุ่มสินค้าที่เป็นไลฟ์สไตล์ทั้งการตกแต่งดีไซน์ แฟชั่น เครื่องสำอาง ซึ่งจะมีการจัดงาน SHOP & STORE VIETNAM งานแสดงวัสดุ อุปกรณ์สำหรับร้านค้าและแฟรนไชส์ ในปี 2018 นี้”

“สำหรับ NEPCON VIETNAM 2017 งานแสดงเทคโนโลยีการประกอบ การตรวจวัด สำหรับการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ณ I.C.E. Hanoi บริษัทฯ ได้นำนักธุรกิจไทยที่มีศักยภาพสูงนัดหมายจับคู่เพื่อรับช่วงการผลิตในเวียดนาม ซึ่งงานในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน The Japan External Trade Organization (JETRO) พร้อมนำนักลงทุนญี่ปุ่นมองหาผู้ค้าทางธุรกิจเช่นกัน ทั้งนี้ จากฐานข้อมูลลูกค้าที่มีประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ต่อยอดให้เกิดการขยายฐานจับคู่ทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการในเวียดนามอย่างมีประสิทธิภาพ”

ตามติด NEPCON VIETNAM 2017 ตามติดเทคโนโลยีการผลิตในเวียดนาม

“สำหรับเทคโนโลยีที่นำมาจัดแสดงในงานที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงจะเห็นได้ว่าเป็นแนวโน้มของความต้องการชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็กลงและในขณะเดียวกันก็มีความแม่นยำสูง ดังนั้น เทคโนโลยีการผลิตที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว ก็ต้องมีการพัฒนาไปพร้อมกัน เช่น เครื่องจักรที่จะนำมาหยิบจับ วาง ก็ต้องรองรับเรื่องขนาดด้วยเช่นกัน และเทคโนโลยีทางด้านหุ่นยนต์แขนกลก็เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาในทุกอุตสาหกรรมเช่นกัน”

ตามติด NEPCON VIETNAM 2017

โอกาสการลงทุนในเวียดนาม

คุณอิสระ กล่าวถึงโอกาสการลงทุนในเวียดนามว่า ในปัจจุบันมีความสำคัญต่อภาคธุรกิจไทยในฐานะคู่ค้า ซึ่งมูลค่าการส่งออกจากไทยไปยังเวียดนามระหว่างปี 2012-2016 เติบโตเฉลี่ย 13.3% ต่อปี โดยมีรถยนต์ ส่วนประกอบรถยนต์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบเป็นสินค้าส่งออกหลักมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากไทย (Thai Direct Investment TDI) ไปเวียดนามเติบโตเฉลี่ย 15.2% ต่อปี และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในภาคการผลิตเครื่องจักรและเครื่องมือมากที่สุด รองลงมา คือ การผลิตอาหารและอุปกรณ์ไฟฟ้า

นอกจากชิ้นส่วนยานยนต์แล้ว ตลาดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในเวียดนามนับเป็นตลาดสำคัญสำหรับนักธุรกิจไทย เวียดนามเป็นหนึ่งในฐานการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน แต่เป็นการผลิตที่ใช้ชิ้นส่วนประกอบนำเข้าจากต่างประเทศเป็นส่วนมาก และมีสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตภายในประเทศต่ำ จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปลงทุนผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อป้อนให้กับโรงงานประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในเวียดนามต่อไป

“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่เวียดนามมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งคือเหตุสนับสนุนเรื่องของแรงงาน ส่วนหนึ่งคือเชิงยุทธศาสตร์ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ที่มีการย้ายฐานการผลิตมาเวียดนามตอนเหนือ เพราะการเดินทางที่มีความคุ้มทุนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของระบบโลจิสติกส์นั่นเอง”

ด้านคุณมานพชัย วงศ์ภักดี เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย กล่าวว่า เนื่องด้วยรัฐบาลเวียดนามมีการดำเนินนโยบายอย่างต่อเนื่องระยะยาว อีกทั้ง มีนโยบายการส่งเสริมการเปิดรับการลงทุน ความพร้อมของประชากร รวมถึงกำลังซื้อของชาวเวียดนามที่มีมากขึ้น ส่งผลให้เวียดนามเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นด้านการเข้ามาลงทุนเป็นอย่างยิ่งเมื่อเปรียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน

“การตัดสินใจเพื่อเข้ามาลงทุนในเวียดนาม ในเบื้องต้น คือ การดูว่าหากผลิตที่เวียดนามก็ต้องมีต้นทุนการผลิตที่น้อยกว่าประเทศไทย และพิจารณาปัจจัยเรื่องต้นทุนค่าเช่าที่ดิน เพราะค่าเช่าที่นี่ค่อนข้างสูง เวียดนามมีที่ดินน้อยกว่าไทย พื้นที่ของประเทศโดยรวมมีเพียง 3 แสนตารางกิโลเมตร และมีจำนวน 45% เป็นภูเขา หรือพื้นที่ราบสูงที่ไม่เหมาะที่จะทำเป็นโรงงานอุตสาหกรรมหรือการเกษตร”

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้เป็นช่วงที่น่าจะให้ความสนใจกับเวียดนามเป็นพิเศษ หากต้องการที่จะลงทุนในต่างประเทศ มีนักลงทุนทั้งจากประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น จีน กลุ่มอียู ก็เริ่มที่จะให้ความสนใจ และต้องการที่จะมาตั้งฐานการผลิตในเวียดนาม ทั้งส่งออกอาเซียนหรือขายให้กับชาวเวียดนามด้วยกัน หาก 4-5 ปี ข้างหน้า หากเราอยู่เฉยๆ และไม่ได้มองเรื่องการย้ายฐานการผลิต บางอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็นที่จะต้องย้ายมา หากไม่รีบดำเนินการอาจสูญเสียโอกาส เพราะมีคู่แข่งจำนวนมากที่จะมาลงทุนในเวียดนามด้วยเช่นกัน

“ธุรกิจที่มีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนในเวียดนามในปัจจุบัน เช่น เกษตร วัสดุก่อสร้าง ซีเมนต์ อาหารสำเร็จ เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลไม้ไทยก็เป็นที่นิยม เป็นต้น”

คุณ Luu Hoang Long, Chairman, Vietnam Electronic Industries Association กล่าวว่า ทางรัฐบาลเวียดนามมีการสนับสนุนด้านการลงทุนอย่างเต็มที่ทั้งในเรื่องของภาษี การถ่ายโอนเทคโนโลยี โดยประเทศที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามมากที่สุด คือ ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน และประเทศเยอรมนี ซึ่งนับว่าเป็นตลาดใหม่ โดยที่ประเทศต่างๆ เหล่านี้นับเป็นผู้ลงทุนที่นำความรู้และเทคโนโลยีเข้ามาทำ โดยเฉพาะในกรณีของแบรนด์ซัมซุงที่มีการเปิดโอกาสให้เราได้ทำธุรกิจมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาอุตสาหกรรมของเวียดนามนั้นมองว่า สิ่งสำคัญ คือ การหาตลาดเฉพาะของตัวเอง และเป็นตลาดใหญ่ ซึ่งเป็นตลาดที่ตนเองสามารถแข่งขันได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความร่วมมือกับบริษัทต่างประเทศมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน และตอบสนองต่อ Global Standard มากขึ้น

EXECUTIVE SUMMARY

NEPCON VIETNAM 2017, an exhibition of assembling and measuring technologies for electronic part manufacturing was held at I.C.E. Hanoi. Many companies brought high performance Thai businessmen to meet up with Vietnam entrepreneurs in order to take over productions in Vietnam. This year the event had been supported by The Japan External Trade Organization (JETRO), while Japanese investors had also been brought here to look for business alliances. According to this event, the data of high performance customers in automobile part and electronic industries proved that effectively helped initiating the expansion of business matching base for entrepreneurs in Vietnam.

This year the number of visitors joining NEPCON VIETNAM 2017 in Hanoi was increased by 32%, which in 2015 the total number was 5,784 people and in 2017 the total number was 7,653 people. In addition, this year exhibition arranging strategy to strike supporting industries in Vietnam emphasized on Business Matching model aiming to increase opportunity for exhibitors and buyers to meet up and effectively setup the table top session to meet the shared targets together.

READ MORE

Notice: Undefined index: popup_cookie_abzql in /home/mmthaixaulinbx/webapps/mmthailand/wp-content/plugins/cardoza-facebook-like-box/cardoza_facebook_like_box.php on line 924