ในปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีอย่างชิปเซมิคอนดักเตอร์ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งในเทคโนโลยีที่หลาย ๆ ประเทศเริ่มทุ่มเงินลงทุนและให้ความสำคัญอย่างมหาศาล
- รัฐบาลอังกฤษทุ่มหลายล้าน ผลักดันการผลิตแบตเตอรี่ในประเทศ
- ชิป 3 นาโนเมตรจาก Samsung ขนาดลดลง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น !
ประเทศญี่ปุ่นเองก็เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่เล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีเหล่านี้และได้ประกาศลงทุนกว่า 70,000 ล้านเยน (18,000,000,000 บาท) เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ
เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ของกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมประเทศญี่ปุ่น (Ministry of Economy, Trade and Industry – METI) ได้มีการระบุข้อมูลการลงทุนผลักดันอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศด้วยกลยุทธ์การเสริมฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์สำหรับเทคโนโลยี IoT อย่างเร่งด่วน และมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือกับประเทศสหรัฐอเมริกาและในระดับโลกขึ้นมา
ร่วมลงทุนบริษัทวิจัยและพัฒนาชิป ‘Rapidus’
ทางประเทศญี่ปุ่นนั้นจะร่วมมือกับบริษัทด้านเทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกา IBM เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีชิปขนาด 2 นาโนเมตร (nm) และจะมีการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาชิปในชื่อ ‘Rapidus’ ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การทำงานร่วมกับศูนย์วิจัยและบริษัทต่าง ๆ เพื่อออกแบบ พัฒนาและผลิตชิปที่มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น
นอกจากเงินทุนจากทางกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมแล้ว บริษัทต่าง ๆ ในญี่ปุ่นยังได้ร่วมลงทุนในการกระตุ้นการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ครั้งนี้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทอย่าง Sony, Softbank หรือ Toyota เป็นต้น
การลงทุนในครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ประเทศญี่ปุ่นสามารถตอบสนองต่อความต้องการตลาดชิปและเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของเทคโนโลยีหลาย ๆ อย่าง และมีการคาดการณ์ว่าจะยังคงขาดแคลนอย่างต่อเนื่องไปอีกในอนาคต นี่จึงถือเป็นการลงทุนที่จะสามารถตอบโจทย์ต่อความต้องการของหลาย ๆ อุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.meti.go.jp/press/2022/11/20221111004/20221111004-1.pdf
