บ้านปู ร่วมกับ EnLink สหรัฐฯ พัฒนาโครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซมีเทน แหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ ในรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ คาดดำเนินการผลิตปี 2566
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บ้านปู เดินหน้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และก๊าซมีเทน (CH4) อย่างเป็นรูปธรรม โดย BKV Corporation (BKV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปูในสหรัฐอเมริกาได้บรรลุข้อตกลงพัฒนาโครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Sequestration: CCS) ร่วมกับบริษัท EnLink Midstream, LLC (EnLink) ผู้ให้บริการระบบกลางน้ำด้านพลังงาน (ระบบแยก อัดก๊าซ และท่อขนส่งก๊าซธรรมชาติ) รายใหญ่ในสหรัฐฯ โดยโครงการดังกล่าวดำเนินการครอบคลุมแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ ในรัฐเท็กซัส คาดว่าพร้อมดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ ภายในปี 2566 สนับสนุนการยกระดับความยั่งยืนในกระบวนการผลิต ตอกย้ำหลัก ESG และจุดยืน “Smarter Energy for Sustainability” ของบ้านปู
[Factory News Live!] WeeklyReport | FactoryNews ep.16/ 01 Jul 2022
“บ้านปูในฐานะผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter ได้มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยหนึ่งในการดำเนินงานที่สำคัญของบ้านปู คือ การแสวงหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมาใช้ในการบริหารจัดการก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และก๊าซมีเทน (CH4) ในทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสอดรับกับทั้งเทรนด์พลังงานโลก และนโยบายของภาครัฐในทุกประเทศที่บ้านปูเข้าไปดำเนินธุรกิจ สำหรับการลงทุนในโครงการ CCS เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการร่วมมือและสร้างพลังร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนากระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พร้อมทั้งยกระดับการพัฒนาความยั่งยืน ซึ่งจะช่วยผลักดันให้บ้านปูเข้าสู่เป้าหมายในการเข้าร่วมสังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ได้เร็วมากขึ้น”
สำหรับ โครงการ CCS ที่ BKV ร่วมพัฒนากับ EnLink นับเป็นหนึ่งในโครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เชิงพาณิชย์โครงการแรกที่เกิดขึ้นครั้งแรกในสหรัฐฯ ทั้งนี้เพื่อช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตและการขนส่งก๊าซธรรมชาติ โดย EnLink จะขนส่งก๊าซธรรมชาติของ BKV ที่ถูกผลิตจากแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ผ่านท่อขนส่งไปยังโรงงานแยก และอัดก๊าซ ในรัฐเท็กซัส ซึ่งในระหว่างกระบวนการดังกล่าว ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะถูกดักจับ บีบอัด และขนส่งกลับไปหลุมใต้ดินของ BKV เพื่อจัดเก็บ และไม่มีการปล่อยกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศอีก
นายคริสโตเฟอร์ กาลนิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BKV Corporation ในสหรัฐฯ เผยว่า “BKV มุ่งสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งให้ธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ของบ้านปูอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันยังคงดำเนินธุรกิจตามหลักความยั่งยืน โดยจัดตั้งหน่วยงานดีคาร์บอน เวนเจอร์ส(dCarbon Ventures) ขึ้นเพื่อสนับสนุนการเติบโตของ BKV อย่างยั่งยืนในอนาคต รวมถึงขับเคลื่อนนวัตกรรม และพัฒนาโครงการ CCS ซึ่งเป็นหนึ่งในการดำเนินงานที่ช่วยผลักดันเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และก๊าซมีเทน (CH4) ในปัจจุบันของ BKV ประมาณร้อยละ 10 ถือเป็นก้าวสำคัญของการเดินหน้าสู่เป้าหมายของ BKV ในการปล่อยก๊าซดังกล่าวสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2568”
บ้านปูยึดมั่นในหลัก ESG ที่คำนึงถึงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ และถือเป็นแนวทางในทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจ โดยที่ผ่านมาบ้านปูนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่ตอบโจทย์การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในกระบวนการผลิต เช่น เทคโนโลยี Combined Cycle Gas Turbines (CCGT) ในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I ในสหรัฐฯ และเทคโนโลยีผสมผสานในการแปลงสถานะถ่านหินให้กลายเป็นก๊าซเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า (Integrated Gasification Combined Cycle: IGCC) ในโรงไฟฟ้านาโกโซ ในญี่ปุ่น ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลสาร รวมทั้งเน้นลงทุุนในธุุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้นและเทคโนโลยีพลังงาน ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานแห่งอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความชาญฉลาดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย