Lockheed Martin เปิดตัวโรงงานใหม่ในพื้นที่กว่า 65,000 ตารางฟุตสำหรับประกอบมิสไซล์ หรือหัวรบสำหรับการทำสงคราม และระบบการทำงานไม่ใช่โรงงานธรรมดา แต่เป็นโรงงานที่ตั้งอยู่บนแนวคิด Digital First
แนวคิด Digital First สำหรับโรงงานผลิตอาวุธแห่งนี้มาขึ้นเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยี Hypersonic Strike ด้วยการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและดีที่สุดของบริษัทที่มี
โครงสร้าพื้นฐานดิจิทัลที่เกิดขึ้นกับโรงงานดิจิทัลแห่งล่าสุดนี้เอื้อให้เกิดการดำเนินการด้วยพื้นฐานทางวิศวกรรมในรูปแบบดิจิทัลได้เกือบทั้งหมด ซึ่งเป็นการปฏิวัติวิธีที่ใช้ในการพัฒนาและผลิตระบบ Hypersonic ของอเมริกาด้วยประสิทธิภาพและความสามารถในการเข้าถึงได้
อาวุธโจมตี Hypersonic Strike นั้นสามารถบินได้ด้วยความเร็วเกิน Mach 5 ซึ่งเร็วเป็น 5 เท่าของความเร็วเสียง ความเร็วดังกล่าวเป็นหัวใจสำคัญสำหรับความแม่นยำในการโจมตีระยะไกลเพื่อปกป้องความปลอดภัยของมาตุภูมิและกำจัดภัยคุกคามจากภายนอก อาวุธใหม่นี้จึงเหมาะที่จะรับมือกับมิสไซล์ความเร็วสูงของศัตรูได้เป็นอย่างดี
เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตนั้นจะเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าล้ำสมัยไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์, อิเล็กทรอนิกโฟมบอร์ด, เครื่องมือสำหรับแรงบิดอัจฉริยะ, ปัญญาประดิษฐ์, AR และโมเดลที่มีพื้นฐานมาจากการใช้ข้อมูล
การผลิตจะใช้ Digital Thread ซึ่งเป็นเครือข่ายการสื่อสารที่เต็มไปด้วยข้อมูลเพื่อจับประเด็นที่ซ่อมอยู่เพื่อ Optimize การผลิตให้เกิดขึ้นได้อย่างเต็มศักยภาพ
ด้วยความสามารถอันล้ำสมัยเหล่านี้เทคโนโลยีของ Lockheed Martin จึงสนับสนุนบริการการใช้งาน Hypersonic Strike หลากหลายแบบรวมถึง Conventional Prompt Strike (CPS), Long Range Hypersonic Weapon (LRHW) และ Air-Launched Rapid Response Weapon (ARRW)
การเข้ามาของ Lockheed Martin นั้นทำให้เกิดการเคลื่อนตัวในภาคส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ, ภาคการศึกษา และพันธมิตรอย่างกองทัพ เช่น การเกิดขึ้นของโครงการ Advanced Manufacturing Technician Apprenticeship Program (AMTAP) ซึ่งจบการศึกษาจากหลักสูตรกว่า 40 คนและเข้ามาร่วมทีมทำงานแล้วในปัจจุบัน
ที่มา:
Madeinalabama.com
เนื้อหาที่น่าสนใจ:
GM เห็นช่องธุรกิจ 25 พันล้านดอลฯ ในตลาดเทคโนโลยีป้องกันประเทศในส่วน EV
