เครื่องมือตรวจวัดสำหรับงาน QC หรืองานประกันคุณภาพนั้นต้องพร้อมใช้งานและทำงานได้อย่างแม่นยำเที่ยงตรงอยู่เสมอ การบำรุงรักษาสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้จึงไม่ได้มีเพียงแค่การเปิด-ปิดให้ทำงานได้เท่านั้น แต่ยังคงต้องรักษาความแม่นยำและความถูกต้องในการทำงานตรวจวัดอีกด้วย การสอบเทียบจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจละเลยได้ในการใช้งาน แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องตรวจวัดของคุณถึงเวลาสอบเทียบแล้ว?
การสอบเทียบสำคัญอย่างไร?
การสอบเทียบหรือการ Calibrate อุปกรณ์ตรวจวัดของคุณให้อยู่ในสภาพพร้อมทำงานนั้นมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าส่วนการผลิตอื่น ๆ การรับประกันคุณภาพและประสบการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้งานถือเป็นหน้าที่โดยตรงสำหรับอุปกรณ์ตรวจวัดประกันคุณภาพ ซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายเพื่อรับประกันความเชื่อมั่นและเชื่อใจของผู้บริโภค เครื่องมือตรวจวัดจึงจำเป็นต้องมีความเที่ยงตรงอยู่เสมอ
ในมุมมองของผู้ใช้งานหรือผู้บริโภคแล้ว คุณภาพสินค้าที่ได้รับนั้นบ่งบอกได้ถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่สามารถสะท้อนความสามารถในการผลิตได้หลากหลายมิติ เช่น ในกรณีของวัสดุที่ต้องใช้ในงานประกอบหากมีขนาดที่ผิดเพี้ยนก็ไม่สามารถประกอบเข้ากับชิ้นส่วนอื่น ๆ ได้อย่างเหมาะสม หรือในกรณีของชิ้นส่วนที่ต้องรองรับแรงต่าง ๆ นั่นอาจหมายถึงความปลอดภัยในการใช้งานซึ่งอาจส่งผลต่อชีวิตและสินทรัพย์ได้
3 ข้อสังเกตเมื่อเครื่องมือต้องการการสอบเทียบ
เครื่องมือที่ใช้สำหรับงานตรวจสอบนั้นต้องอยู่ในสถานะการทำงานที่ยอมรับได้ตลอดเวลาแม้จะไม่ได้เป็นสถานะที่ดีที่สุดในการทำงานก็ตามที เพื่อป้องกันและแก้ไขความผลิดพลาดในการตรวจวัดของเครื่องมือเหล่านี้การสอบเทียบจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
แน่นอนว่าปริมาณการตรวจสอบชิ้นงานหรือสินค้าระหว่างการตรวจทุกชิ้นและการตรวจแบบสุ่มนั้นแตกต่างกัน การตรวจแบบจำนวนมากทุกชิ้นจะอาศัย Machine Vision เพื่อทำการตรวจสอบเบื้องต้นอย่างรวดเร็ว เช่น การโรยหน้าอาหาร คุณภาพการปิดฝาขวด หรือจุดการเชื่อมต่าง ๆ เป็นต้น แต่สำหรับการสุ่มตรวจนั้นโดยมากจะต้องใช้เครื่องมือที่มีความละเอียดมากกว่าเพื่อให้ลงลึกถึงข้อมูลที่ต้องการได้มากที่สุด เช่น การทดสอบความยืดหยุ่นของอาหาร ความข้นเหลวของสารเคมี ความตึงของวัตถุ ความแข็งแรงของวัสดุ ซึ่งเครื่องมือสำหรับการตรวจสอบเหล่านี้ต้องการการสอบเทียบทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นการสุ่มตรวจหรือการตรวจจำนวนมากบนสายการผลิต โดยข้อสังเกตเบื้องต้นหากเครื่องมือสำหรับงานตรวจวัดนั้นต้องการการบำรุงรักษา การปรับตั้ง หรือการสอบเทียบ ได้แก่
1. รอบการซ่อมบำรุง/สอบเทียบ
วิธีการพื้นฐานที่สุดสำหรับการเลือกช่วงเวลาสอบเทียบ คือ การดำเนินการตามรอบระยะเวลา ซึ่งการดำเนินการด้วยวิธีเหล่านี้สามารถใช้ข้อมูลจากผู้ผลิตเครื่องเพื่อเป็นแนวทางกำหนดช่วงเวลาในการรับสอบเทียบได้ แต่เพื่อให้ได้ช่วงระยะเวลาที่แน่นอนและแม่นยำที่สุด การคำนวณช่วงเวลาที่มีพื้นฐานจากปริมาณการใช้งาน สภาพแวดล้อม และปัจจัยที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ซึ่งตัวแทนจำหน่ายเครื่องสามารถสนับสนุนในการคำนวณเหล่านี้เพื่อประมาณการช่วงเวลาได้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด
2. หลังการเกิดกระแสไฟฟ้าตกหรือกระแสไฟฟ้าเกิดความผิดปกติ
เมื่อกระแสไฟฟ้าหรือแรงดันไฟฟ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน เครื่องตรวจวัดที่กำลังดำเนินงานอยู่นั้นอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เช่น ทำให้เครื่องไม่สามารถจดจำค่าที่ถูกต้องได้ ค่าการทำงานเกิดความคลาดเคลื่อน หรืออุปกรณ์อาจเกิดความเสียหายทำให้ไม่สามารถทำงานได้ภายใต้ค่าที่ยอมรับ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด คือ ชิ้นส่วนเกิดความเสียหาย การตรวจสอบความสามารถในการตรวจวัดหลังเกิดกระแสไฟฟ้าผิดปกติจึงเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากนี้หากเกิดการกระแทกอย่างรุนแรงกับเครื่องมือก็ควรตรวจสอบความสามารถในการทำงานด้วยเช่นกัน
3. การทำงานของเครื่องเปลี่ยนไป
อุปกรณ์สำหรับตรวจวัดสมัยใหม่นั้นมักจะมาพร้อมกับระบบที่เป็นดิจิทัลที่แสดงผลรายละเอียดได้สูง ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อการทำงานเข้ากับ Cloud หรือทำการควบคุมจากภายนอกสถานที่ได้ ด้วยจุดเด่นเหล่านี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถดูค่าตั้งต้นสำหรับการทำงานเพื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยหรือการทำงานปัจจุบันเพื่อดูความเบี่ยงเบนที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ผู้ใช้งานสามารถดูรูปแบบการแสดงผลค่าที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม อาทิ ลักษณะกราฟที่แตกต่างจากการใช้งานทั่วไป การเกิดข้อมูลผิดพลาดที่มีลักษณะซ้ำ ๆ หรือใช้เวลาในการตรวจวัดที่นานกว่าการทำงานปกติ
คิดถึงบริการสอบเทียบสำหรับงานมาตรวิทยาคิดถึง Intro Group
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการใช้งานอย่างต่อเนื่องในงานอุตสาหกรรมย่อมทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้ด้วยปัจจัยที่หลากหลาย การตั้งค่าหรือสอบเทียบจึงเป็นกิจกรรมที่ต้องดำเนินการตามช่วงระยะอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการสอบเทียบเพื่อปรับปรุงความแม่นยำนั้นจำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและอุปกรณ์พิเศษเพื่อดำเนินการ แน่นอนว่าการใช้บุคคลากรภายในที่มีความเชี่ยวชาญนั้นสามารถควบคุมต้นทุนได้เป็นอย่างดี แต่ในการจ้างบริการภายนอกหรือ Out Sourceนั้นก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไปด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ประสบการณ์ รวมถึงความสามารถในการให้คำปรึกษากรณีต่าง ๆ และการอัพเดทเฟิร์มแวร์หรือซอฟต์แวร์ ซึ่งมีความสำคัญต่อการใช้งาน
นอกจากนี้การใช้บริการจากภายนอกนั้นยังมีจุดเด่นอยู่ที่การได้มาซึ่งเอกสารรับรองผลการตรวจสอบหรือ Inspection Certificate ซึ่งถือเป็นเอกสารจำเป็นในการยืนยันและสร้างความไว้วางใจให้กับคู่ค้าในด้านคุณภาพของสินค้าเมื่อแนบสำเนาไปพร้อมกับการส่งมอบ การเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบเทียบตัวจริงจึงมีความสำคัญอย่างมากสำหรับการรักษาคุณภาของสินค้าซึ่งเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของแบรนด์
Intro Group ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์มาตรวิทยาและงานสอบเทียบสำหรับเครื่องมือในงานอุตสาหกรรมภายใต้มาตรฐาน ISO/IEC 17025:2017 ให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในงานสอบเทียบมาเป็นเวลายาวนานกว่า 30 ปี ทั้งยังเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ด้านมาตรวิทยาสำหรับงานอุตสาหกรรมแบรนด์ดัง อาทิ Chatillon, LLOYD, AMETEK, HBM, YASUDA และ GWS เป็นต้น
เครื่องมือด้านงานมาตรวิทยาจาก Intro Group นั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีดิจิทัลยุคใหม่อย่าง Nexygen Plusซึ่งสามารถใช้งานได้กับเครื่องตรวจวัดจาก LLOYD ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลการทำงานได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว การควบคุมคุณภาพตลอดจนการคาดการณ์รอบการสอบเทียบของเครื่องมือจึงสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ลดโอกาสเกิด Downtime ที่อยู่นอกกำหนดการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริการด้านการสอบเทียบจาก Intro Group จึงสามารถดำเนินการได้กับเครื่องมือดั้งเดิมที่เป็นเชิงกลตลอดจนเครื่องมือยุคดิจิทัลที่มีความละเอียดสูง ทั้งยังมีความับซ้อนด้านสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้เป็นอย่างดี
สำหรับบริการด้านการสอบเทียบจาก Intro Group นั้นครอบคลุมถึง 12 สาขาการวัด รองรับทุกความต้องการในสอบเทียบไม่ว่าจะเป็นงานอุตสาหกรรม งานสำหรับห้องทดลอง และงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เช่น การสอบเทียบสำหรับเครื่องวิเคราะห์คุณลักษณะหรือเนื้อสัมผัสของอาหาร เครื่องทดสอบแรงดึง งานสอบเทียบด้านไฟฟ้า การสอบเทียบปริมาตรและการไหล หรือการสอบเทียบความดันและสุญญากาศเป็นต้น
จะเห็นได้ว่าบริการสอบเทียบของ Intro Group นั้นครอบคลุมทุกความต้องการที่เกิดขึ้นในกิจกรรมของงานอุตสาหกรรมหลากหลายประเภทตั้งแต่อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมขึ้นรูปชิ้นส่วน อุตสาหกรรมเคมีและปิโตรเลียม ตลอดจนถึงการสอบเทียบอุปกรณ์ยอดฮิตในงานอุตสาหกรรมอย่างมอเตอร์ซึ่งต้องให้ความสำคัญกับแรงบิด มั่นใจได้ว่ามาตรฐานและความเชี่ยวชาญในการสอบเทียบนั้นได้มาตรฐานและสามารถรับประกันคุณภาพที่จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
ด้วยแนวคิด ‘เป็นธุระเอาใจใส่พร้อมให้บริการ’ ทำให้มั่นใจได้ว่าบริการจาก Intro Group นั้นเต็มไปด้วยหัวใจแห่งการบริการ ไม่ว่าจะเป็นการบริการก่อนการขายที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าบริการหลังการขาย แนวคิดเหล่านี้ได้ถูกพิสูจน์และยอมรับจากนักอุตสาหกรรมชั้นนำในวงการมาอย่างต่อเนื่อง บริการจาก Intro Group จึงแสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่มากไปกว่าคุณภาพของงานสอบเทียบหรือประสิทธิภาพของเครื่องมือวัดระดับสากล แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในหัวใจและความต้องการของผู้ประกอบการด้วยในเวลาเดียวกัน
สนใจสินค้าและบริการสอบเทียบเครื่องมือติดต่อได้ที่:
Intro Group
E-mail: [email protected]
Website: www.intro.co.th
Line: @introenterprise
เนื้อหาที่น่าสนใจ:
การสอบเทียบเครื่องมือวัดสำคัญต่อ ‘มาตรฐาน’ ในอุตสาหกรรมอย่างไร