SCN เผย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ยังคงได้รับรายได้ต่อเนื่อง แม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศ ยัน ก่อสร้างตามแผน ครบทั้ง 4 เฟส ปี 2565
ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN เปิดเผยว่า โครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ประเทศเมียนมาร์ ในช่วงครึ่งปีแรก 2564 สามารถจำหน่ายไฟฟ้าให้กับภาครัฐได้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นการดำเนินกำลังการผลิตติดตั้งในเฟสที่ 1 จำนวน 50 เมกะวัตต์
Mantis Vision เครื่องสแกน 3D ดวงตาตั๊กแตน รองรับงานวิศวกรรมย้อนกลับ [ep105_SS3]
พร้อมกันนี้ บริษัท SCN รวมถึงกลุ่มผู้ถือหุ้นของโครงการต่างได้รับการชำระค่าไฟอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด คือเมื่อวันที่ 1 ก.พ. , 22 มี.ค. , 12 เม.ย. และล่าสุด 25 พ.ค. โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน บริษัท กรีนเอิร์ธ พาวเวอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด รับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าโครงการมินบูมาแล้วกว่า 4.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 133.73 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี หลังจากสถานการณ์โควิดภายในประเทศเมียนมาร์คลี่คลายลง ทางบริษัทได้มีการปรับแผนเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้ามินบูเฟสที่ 2 อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันสำหรับเฟสที่ 3 และ 4 ยังคงมีการดำเนินการก่อสร้างตามแผนที่วางไว้ ซึ่งหาก COD ครบทั้ง 4 เฟสในปี 2565 จะทำให้รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1400 ล้านบาท
- SCN ผนึก พันธมิตร ลุย โซลาร์รูฟท็อป 110 MV
- SCN โชว์ผลงาน เดินเกมส์รุกสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
- SCN ตั้งงบ 200 ลบ.ลุย ธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป
ดร.ฤทธี กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศเมียนมาร์ยังมีความต้องการใช้ไฟสูงมากขึ้น แม้มีเรื่องของการเมืองเข้ามาเป็นประเด็นให้ทั่วโลกสนใจ แต่การพัฒนาด้านต่างๆภายในประเทศเมียนมาร์ก็ยังคงเดินหน้าต่อ ความต้องการใช้ไฟฟ้าซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาจึงเพิ่มขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าโรงไฟฟ้ามินบูนั้น จะไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นทางการเมือง
