Saturday, November 23Modern Manufacturing
×

UK เร่งวางแผนมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการพิมพ์ 3 มิติ

ด้วยความไม่แน่นอนของมาตรฐานและข้อกำหนดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์จากการพิมพ์ 3 มิติ ทำให้สหราชอาณาจักรเร่งวางนโยบาย มาตรฐานและเสนอแนวทางในการควบคุมมาตรฐานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งาน

เจ้าหน้าที่ด้าน Product Safety and Standards (OPSS) แห่งสหราชอาณาจักรวางแผนที่จะพุ่งเป้าความสำคัญในด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่มาจากเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ในช่วงปีที่กำลังจะมาถึง

การพิมพ์ 3 มิติ หรือเทคโนโลยีที่เรียกกันว่าการเติมเนื้อวัสดุเป็นเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคและผู้ผลิตมีวิธีใหม่ ๆ ในการผลิต กระบวนการเปล่านี้เกี่ยวข้องกับการออกแบบวัตถุ 3 มิติด้วยซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ซึ่งจะถูกอัปโหลดเข้าไปยังเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งพิมพ์วัตถุที่ต้องการด้วยการเติมเนื้อวัสดุทีละชั้น

เครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้นมักจะใช้ในการสร้างชิ้นส่วนอะไหล่หรือชิ้นงานที่ต้องมีการปรับแต่งเพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างอาคาร อุปกรณ์การแพทย์ หรืองานด้านเภสัชกรรม ยกตัวอย่างเช่น Open Bionics จากเมือง Bristol ได้มีการรายงานว่าแขนชีวภาพที่ได้ผลิตนั้นผ่านการรับรองมาตรฐานทางการแพทย์เป็นชิ้นแรกของโลกแล้ว

ศักยภาพของเครื่องพิมพ์ 3 มิติกลายมาเป็นจุดสำคัญท่ามกลางวิกฤติ COVID-19 ปัจจุบันพบว่าบริษัทด้านเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย และผู้ครอบครองเครื่องพิมพ์ 3 มิติมีการผลิตอุปกรณ์ป้องกันแบบสวมใส่บุคคล (PPE) แบบ NHS เพิ่มขึ้น

ในขณะที่ประโยชน์ที่เกิดขึ้นนั้นมีความเข้าใจได้ แต่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มาจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติไม่ควรถูกมองข้าม PPE ที่ผลิตจากกระบวนการเหล่านี้มักถูกมองข้ามความจำเป็นในการทดสอบตามมาตรฐานความปลอดภัยของ EU หรือแม้แต่การผ่านมาตรฐานเครื่องหมาย CE ก็ตามที เนื่องจากปัจจุบันไม่มีหน่วยงานที่กำหนดหรือให้คำแนะนำโดยเฉพาะสำหรับผลิตภณฑ์ที่ถูกพิมพ์ 3 มิติเพื่อนำร่องให้กับผู้ผลิตและผู้ใช้งาน

ในรายงานปี 2019 พบว่า OPSS ได้ระบุถึง ‘อันตรายจากเครื่องจักร’ ที่เกี่ยวข้องกับการพิมพ์ 3 มิติและเริ่มทำการทดสอบเพื่อแสวงหาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการติดตั้งใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวสำหรับความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงการคาดการณ์ความเป็นไปได้ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม

ความรับผิดชอบภายใต้กรอบของความปลอดภัย

กรอบความปลอดภัยและความรับผิดชอบภายใต้นโยบายของสหราชอาณาจักรที่มีต่อผลิตภัณฑ์ที่เกิดความผิดพลาดนั้นมีเป้าหมายเพื่อทำให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยแล้วเท่านั้นที่จะออกสู่ท้องตลาดได้ แนวคิดนี้เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและความรับผิดชอบของพลเมืองซึ่งเป็นผู้ผลิตหรือเป็นซัพพลายให้กับอุปกรณ์ที่มีความผิดพลาดหรือมีความอันตราย

ภายใต้กรอบปัจจุบันสำหรับผู้ผลิต ตัวแทนจำหน่าย ผู้นำเข้า และการค้าปลีกสำหรับเครื่องพิมพ์ 3 มิติและวัสดุการพิมพ์ตลอดจนชิ้นงานที่เสร็จแล้วนั้นมีแนวโน้มที่จะพิจารณาไว้ว่าส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียหายเอาไว้ได้ก่อน

อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวกลับกลายเป็นพื้นที่สีเทาในแง่มุมของผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตจากการเติมเนื้อวัสดุ เช่น จำนวนของกลุ่มรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ นักออกแบบ เครื่องพิมพ์ ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ผู้นำเข้า ตลอดจนตัวแทนจำหน่าย ผูเกี่ยวข้องเหล่านี้ทำให้สามารถระบุได้ยากว่าเกิดความเสียหายมาจากส่วนใด

ความยากลำบากในลำดับต่อไปต้องมองถึงผลิตภัณฑ์ที่มีความผิดพลาด ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับอะไหล่ชิ้นส่วนของเครื่องพิมพ์เอง การที่ไม่มีมาตรฐานตายตัวสำหรับชิ้นส่วนเหล่านี้อาจกลายเป็นความหย่อนยานให้กับความปลอดภัยในการใช้งานเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบไว้แรกเริ่มเดิมทีทั้งหมด หากชิ้นส่วนของเครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้นจัดหาโดย OEM หรือผู้จัดหาที่ใช้บริการกันมายาวนานประเด็นนี้จะไม่กลายเป็นปัญหาอันซับซ้อนสำหรับการไล่ตามหาสายงานที่รับผิดชอบ ถึงกระนั้นหากกระบวนการผลิตของเครื่องพิมพ์ 3 มิติใช้ Outsourced หรือชิ้นส่วนเป็นของผู้จำหน่าย Third Party อาจเป็นปัญหาในการหาความชัดเจนของปัญหาภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค

ถ้าจะอธิบายอย่างง่าย ๆ เมื่อมีการควบคุมหลวม ๆ และมีคำแนะนำในการทำงานผลิตน้อยเกินไป จะส่งผลต่อความปลอดภัยได้โดยตรง

แล้วกฎข้อบังคับสำหรับจัดการกับความเสี่ยงของการพิมพ์ 3 มิติควรจะเป็นอย่างไร?

เราอาจเห็นว่า OPSS นั้นพยายามค้นหาและเปิดเผยปัญหาที่ระบุความรับผิดชอบได้ท่ามกลางเงื่อนไขที่มากมายเหล่านี้ การแก้ปัญหาเหล่านี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นมีทั้งคำแนะนำในการทำงาน มาตรฐาน กฎหมายที่เฉพาะเจาะจงลงไปในส่วนของผู้เกี่ยวข้องต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยการเติมเนื้อวัสดุ

สิ่งที่ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายและผู้นำเข้าเครื่องพิมพ์ 3 มิติภายใต้ OPSS ทำนั้นต้องมีความกล้าที่จะพัฒนาแผนกลยุทธ์เพื่อลดความเสี่ยงและความสูญเสีลเหล่านี้ขึ้นมา พวกเขาต้องพิจารณาว่าหากมีประกันคุ้มครองเพียงพอหรือยัง รวมถึงความต้องการในประกันในการซื้อคืน พวกเขาจะต้องตัดสินใจว่าจะสามารถเจรจาสาเหตุที่ไม่อยู่ในขอบเขตรับผิดชอบหรือจำกัดความรับผิดชอบในสัญญาที่มีกับ Third Party สำหรับในส่วนของซัพพลายของผลิตภัณฑ์ที่พิมพ์ 3 มิติ

ด้วยการที่เทคโนโลยีนี้เป็นเทคโนโลยีเกิดขึ้นใหม่ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในบางกรณีอาจยังไม่เกิดขึ้นแต่คงไม่ใช้เวลานานนักว่าจะเกิดกรณี ความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ที่รับประกันความปลอดภัยควรเกิดขึ้นเคียงคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องรวมถึงความเสี่ยงอื่น ๆ

ผู้ให้การประกันต้องทำความเข้าใจผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติและสิ่งที่เกี่ยวข้องซึ่งทำให้เกิดชิ้นงานที่เสียหายขึ้น เช่น ความเสี่ยที่เกิดขึ้นจากชิ้นส่วนที่ผลิต ชิ้นส่วนทดแทน เหล่านี้ควรมีการคาดการณ์อัตราที่จะเกิดและเงื่อนไขต่าง ๆ เอาไว้ให้ชัดเจน

ที่มา:
Pinsentmasons.com

READ MORE

Notice: Undefined index: popup_cookie_abzql in /home/mmthaixaulinbx/webapps/mmthailand/wp-content/plugins/cardoza-facebook-like-box/cardoza_facebook_like_box.php on line 924