ปัจจุบันโลกถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ทรงพลังต่าง ๆ มากมาย ทั้งที่เกิดขึ้นมาด้วยความจำเป็นและเกิดขึ้นมาเพราะความใคร่รู้ของมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีเหล่านี้ได้พลิกโฉมโลกในปัจจุบันและกลายมาเป็นส่วนสำคัญและเทรนด์ของยุคต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย แต่มีเทคโนโลยีใดบ้างที่ต้องจับตามองใน 10 ปีที่ผ่านมา?
Tesla Model S
พูดถึงยานยนต์ไฟฟ้าสนยุคนี้จะไม่พูดถึง Tesla ก็คงไม่ได้ เพราะตัว Tesla เองเป็นบริษัทที่ทำให้กระแสการใช้ EV เกิดขึ้นได้จริงด้วยแผนการตลาดและปรัญาในธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร ยานยนต์ไฟฟ้านั้นมีมานานแล้วแต่ทว่ากลับมีปัญหาเรื่องระยะทางในการเดินทาง การเติมพลังงาน และความสามารถในการขับเคลื่อน ซึ่ง Tesla Model S เองเป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถขับเคลื่อนได้ในระยะทางที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับยานยนต์ ICE ได้ ในขณะที่ศักยภาพของตัวรถและการออกแบบนั้นเหมือนได้รถสปอร์ตที่มีราคาถูก ทำให้ตัวรถได้รับความสนใจอย่างมาก รวมถึงการสนับสนุนจุดเติมพลังงานไฟฟ้าขากบริษัทที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ มาพร้อมกับโปรโมชันพิเศษสำหรับ Model S ซึ่งอาจเรียกว่าเป็นรุ่นตั้งตัว ทำให้บริษัทเติมพลังงานให้ฟรีตลอดการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีการอัพเดทซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง (จนปัจจุบัน) ตราบใดที่ฮาร์ดแวร์ยังคงรับไหว
Apple iPad
การเกิดขึ้นของสมาร์ทโฟนนับว่าเป็นก้าวสำคัญ แต่การมาถึงของ iOS กลายเป็นการสร้าง Ecosystem ที่เปลี่ยนมิติของอุปกรณ์สื่อสารอย่างสมาร์ทโฟนไปตลอดการ นำมาซึ่งการพัฒนาแอปพลิเคชันต่าง ๆ การเกิดขึ้นของไอเดียใหม่ ๆ ตามมาอย่างรวดเร็ว และไม่นานเกินรอ iPad จาก Apple ก็ปรากฎตัวขึ้น แม้ว่ามันจะดูเหมือน iPhone ที่ถูกขยายหน้าจอขึ้นมา แต่ทว่าฟังก์ชันการใช้งานกลับแตกต่างและทรงพลัง ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่มันจึงกลายเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพ เมื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริมแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นปากกาหรือแป้นพิมพ์ ทำให้มันสามารถใช้ทดแทนคอมพิวเตอร์พกพาได้อย่างดีมากในแง่ของน้ำหนัก ความสะดวกเวลานำเสนอข้อมูล การจดบันทึกข้อมูล และแน่นอนความสามารถในการสัมผัสที่ถูกเพิ่มขึ้นด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ทำให้สามารถทำงานได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการอ่านค่าข้อมูลต่าง ๆ ที่ถูกส่งมาผ่านเครือข่าย การใช้งาน AR ร่วมกับกล้องที่ติดตั้งมา ทำให้กลายเป็นสำนักงานพกพาที่สามารถทำงานได้ทุกที่
Raspberry Pi
ถึงเวลาของยุคอุปกรณ์ขนาดเล็ก การมาถึงของ Raspberry PI เป็นเหมือนประกายไฟที่เป็นการริเริ่มและต่อยอด Raspberry PI สามารถใช้เป็นโครงการเพื่อการศึกษาและโครงการนำร่องต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีแบบ Open Source ที่เปิดกว้างในการพัฒนา ด้วยศักยภาพที่รองรับระบบ Multimedia ที่ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนทำให้สามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย ด้วยการที่เจ้าคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กนี้มีราคาถูกทำให้เข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับการใช้เรียนเขียนโปรแกรม เปิดโอกาสในการเรียนรู้สู่โลกดิจิทัลซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญสำหรับยุคปัจจุบันซึ่งทักษะการเขียนโปรแกรมกำลังเพิ่มความสำคัญอย่างรวดเร็ว
Apple Watch
Wearable Technology มีอยู่มากมายในยุคปัจจุบันแต่สิ่งที่มาก่อนหน้า Apple Watch และสร้างปรากฏการณ์ที่พลิกโลกได้สำเร็จนั้นมีอยู่น้อยมาก มันไม่ใช่เพียงอุปกรณ์เสริมที่ต้องพ่วงกับสมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่มันสามารถทำงานควบคู่กับการตรวจสอบตรวจวัดค่าต่าง ๆ ของพฤติกรรมในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ การนับก้าว การรับสาย การตรวจสอบทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน และฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการตรวจสอบเวลา การมาถึงของ Apple Watch ทำให้ตลาด Wearable Technology ถูกตั้งมาตรฐานขึ้นตามซอฟต์แวร์อัจฉริยะของเจ้านาฬิกาอัจฉริยะนี้ สิ่งที่สำคัญ คือ การรักษาชีวิตของผู้สวมใส่! มีหนึ่งในกรณีที่เกิดขึ้นจริง คือ ผู้สวมใส่หมดสติล้มกระแทกพื้นและ Apple Watch ตรวจจับการสั่นสะเทือนที่ผิดปรกติได้และไม่มีการตอบสนองจากผู้สวมใส่ทำให้เจ้านาฬิกาอัจฉริยะรีบติดต่อหน่วยฉุกเฉินทันทีเพื่อทำการรักษาพยาบาลให้ทันท่วงที ศักยภาพในการ Tracking และทำงานอัตโนมัติเหล่านี้สามารถตั้งค่าในการเตือนพฤติกรรมต่าง ๆ ได้เพื่อให้เกิดสุขภาวะที่ดีอีกด้วย
Neural Link
ในนิยายวิทยาศาสตร์มักจะมีการควบคุมเทคโนโลยีล้ำ ๆ เช่น Hologram หรือการสั่งงานด้วยเสียง การควบคุมการทำงานด้วยสมอง จินตนาการเหล่านี้ได้กลายเป็นจริงแล้วในปัจจุบัน โดย Startup จากยอดชายนวัตกรอย่าง Elon Musk เปิดเผยความสำเร็จของ Neural Link ในการฝังชิปโดยตรงไปยังสมองเพื่อทำการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการด้านสมองโดยใช้ AI เข้ามาสนับสนุนโดยตรง ทำให้สามารถรักษาโรคที่อาจทำได้ยากในปัจจุบัน หรือทำการก้าวข้ามขีดจำกัดในการทำงานของสมองมนุษย์ด้วยก็เป็นได้
Internet Protocol Version 6 (IPv6)
มาตรฐานการส่งข้อมูลแบบใหม่ที่สนับสนุนการใช้ Node ในระบบจำนวนมาก รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทจากเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์จำนวนมาก สนับสนุนค่า Quality of Service (QoS) ที่ทำให้เกิดการใช้งานภาพเคลื่อนไหวและเสียงแบบ Real-Time ได้ ด้วยความสามารถในการรองรับการเชื่อมต่อที่มากขึ้นทำให้สามารถทำงานกับอุปกรณ์ที่หลากหลายเป็นหนึ่งในใบเบิกทางไปสู่ IoT และ Big Data ซึ่งปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำคัญที่เกิดขึ้นและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วให้กับโลกยุคปัจจุบัน
Oculus VR
โลกเสมือนคือสิ่งที่เหล่ามมนุษย์ใฝ่ฝันกันมานานแสนนาน การพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับ Virtual Reality (VR) นั้นจึงได้เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน แต่ด้วยการใช้ทรัพยากรจำนวนมาก เทคโนโลยีขั้นสูง รวมไปถึงอุปกรณ์ต้นแบบที่เข้าถึงได้ยากทำให้ VR นั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จนกระทั่งการมาถึงของ Oculus Rift ที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ หลังจากนั้นไม่นานค่ายผู้ผลิตต่าง ๆ ก็เปิดตัวผลิตภัณฑ์ VR ขึ้นมากันเป็นดอกเห็ด ไม่ว่า HTC Vive, Sony Ps4 VR หรือแม้กระทั่งแว่น VR จากจีนที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นตัวประมวลผลและแสดงผล เริ่มแรกนั้น VR ได้รับความนิยมในกลุ่มนักเล่นเกมส์ แต่ในปัจจุบันศักยภาพของมันถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่สำหรับภาคธุรกิจ เช่น การใช้งานในการฝึกทักษะของแรงงานและช่วยในการออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับสายอุตสาหกรรม ทำให้สามารถลดต้นทุนของธุรกิจและสนับสนุนให้เกิดความพร้อมก่อนการฝึกหรือลงทุนติดตั้งโรงงานจริงได้
Ethereum
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับ Blockchain หรือ Bitcoin ซึ่งเป็นค่าเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงซึ่งมาจากการทำเหมืองข้อมูล แต่ทว่าสิ่งเหล่านี้ยังต้องการแอปพลิเคชันที่มีลักษณะกระจายศูนย์ (Decentralized) จึงเกิด Blockchain ที่ชื่อ Ethereum ขึ้นมา ทำหน้าที่เป็น Blockchain แบบ Open-source บทบาทของมันคือการทำหน้าที่เป็นเครื่องมือให้กับนักพัฒนาและนักลงทุนเพื่อสร้างธุรกิจแบบกระจายศูนย์ มีสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่ทำหน้าที่บุคคลที่ 3 จากหลากหลายอุตสาหกรรม หรือการเป็นตัวกลางทำให้สามารถป้องกันการฉ้อโกงในทางการเงินได้ด้วยการเข้ารหัสผ่านคนกลางนั่นเอง
Atlas
ในยุคที่ผู้คนต่างหวาดกลัวการมาถึงของหุ่นยนต์ในการทำงานโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่มีความชัดเจนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามักจะเห็นหุน่ยนต์กลุ่มแขนกลและหุ่นยนต์เคลื่อนที่ไ้ดที่ใช้ในงานคลังสินค้าแต่เราแทบไม่เคยเห็นหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างคล้ายสิ่งมีชีวิตที่มีความโดดเด่นเลยจนกระทั่ง Asimo เปิดตัวออกมาเป็นหุ่นยนต์ Humanoid รุ่นแรก ๆ ที่โด่งดังแต่นั่นก็เทียบไม่ได้กับ Atlas จาก Boston Dynamics จุดเด่นของเจ้าหุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์ตัวนี้ คือ การเคลื่อนไหวที่ใกล้เคียงกับมนุษย์มาก ๆ สามารถวิ่งและกระโดดได้ ไม่ใช่กระโดดธรรมดานะครับกระโดดกลับหัวได้ หรือแม้กระทั่งทำ Parkour หรือ Free Running ได้ซึ่งไม่ใช่มนุษย์ทุกคนที่ร่างกายพร้อมจะทำนะครับ มันแสดงอกอให้เห็นถึงความก้าวหน้าในเทคโนโลยีหุ่นยนต์ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ การโปรแกรมต่าง ๆ รวมไปถึงการเรียนรู้และถอดแบบกายภาพการทำงานของร่างกายมนุษย์อีกด้วย
AlphaGo
ยุคนี้ต้องบอกเลยว่าปัญญาประดิษฐ์นั้นมาแรงมาก ๆ แต่ถ้าจะต้องพูดถึง AI สักตัวผมจะต้องนึกถึง AlphaGo ขึ้นมาเป็นอย่างแรง มันเป็น AI ตัวแรกที่สามารถเอาชนะผู้เล่นโกะ (เกมส์หมากกระดาน) ระดับแชมป์โลกได้และกลายเป็นผู้เล่นโกะที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบัน ทำไมต้องโกะ? เพราะโกะนั้นเป็นหนึ่งในเกมส์สุดคลาสสิคที่มีความท้าทายสำหรับ AI อย่างมากเนื่องจากความซับซ้อนของการเล่นที่ต้องการการคิดกลยุทธ์ซ้อนกันหลายมิติ ความสำเร็จนี้นั้นมาจากการตีความและเปลี่ยนแปลงการทำงานของ AI ใหม่โดยการผสมผสานการค้นหาข้อมูลจากผังข้อมูลที่ล้ำสมัยเข้ากับ Deep Neural Network
“ผมคิดว่า AlphaGo นั้นทำงานโดยการประมวลผลความเป็นไปได้ซึ่งนั้นมันเป็นการทำงานที่เรียกได้ว่าเป็นเครื่องจักร แต่เมื่อผมเห็นการเดินหมากผมเปลี่ยนความคิดทันที AlphaGo นั้นคือความคิดสร้างสรรค์อย่างจริงแท้ที่สุด”
Lee Sedol ผู้ชนะแชมป์โลกโกะ 18 รายการ
ในทศวรรษที่ผ่านมานั้นมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและก้าวกระโดดกันอยู่มากมาย ตั้งแต่วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ เศรษฐกิจและวิถีชีวิต จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้นำมาซึ่งโอกาสใหม่ ๆ ของมนุษย์ พลิกโฉมโลกที่เคยรู้จักซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ยังต้องการการปรับตัวของมนุษย์เพื่อให้สอดรับกับโลกใบใหม่ด้วยเช่นกัน
ที่มา:
Time.com/5745302/best-gadgets-of-the-2010s-decade/
Sea.pcmag.com/gallery/35083/the-most-iconic-tech-innovations-of-the-2010s
Postscapes.com/iot-history
Hbr.org/2016/10/the-mainstreaming-of-augmented-reality-a-brief-history
Cnet.com/news/countdown-the-10-most-important-tech-trends-of-the-decade/
Techopedia.com/definition/5368/internet-protocol-version-6-ipv6
Binance.vision/blockchain/history-of-blockchain
Meldium.com/what-is-ethereum-and-its-importance/
