บอร์ด ปตท. แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาซีอีโอ ปตท. คนใหม่ แทน นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร และ ปิด 2 บริษัทย่อยในอินโดนีเซีย หลังสำรวจพบไม่คุ้มค่าลงทุน
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังจากการประชุมคณะกรรมการ ปตท. เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 ถึงมติการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาซีอีโอ ปตท. ว่า ตามที่ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร จะครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 นั้น มาตรา 8 จัตวา ของพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 กำหนดว่า
“ในการจ้างและแต่งตั้งผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจ ให้คณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจนั้น ตั้งคณะกรรมการสรรหาคณะหนึ่งมีจำนวนห้าคน ซึ่งต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 8 ตรี (1) (3) (4) (5) (6) (11) และ (12) ให้คณะกรรมการสรรหา ทำหน้าที่สรรหาบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์เหมาะสมที่จะเป็นผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 8 ตรี (1) (3) (4) (5) (6) (9) (10) (11) และ (12) ไม่เป็นกรรมการของรัฐวิสาหกิจแห่งนั้น เว้นแต่เป็นผู้บริหารซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่งและมีอายุไม่เกินห้าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวันยื่นใบสมัคร”
โดยที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. ได้มีมติคัดเลือก 1. คณะกรรมการสรรหา จำนวน 5 คน 2. คณะอนุกรรมการพิจารณาผลตอบแทนจำนวน 4 คน ประกอบด้วยคณะกรรมการ ปตท. 3 คน และผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จำนวน 1 คน
คาดว่าจะมีการเปิดรับสมัครผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. คนต่อไป ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ตามขั้นตอนต่อไป
นอกจากนั้นที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. ยังได้รับทราบการรายงานผลการดำเนินการปิดบริษัท PT Makassar Prima Coal (PT MPC) บริษัทย่อยซึ่ง ปตท. ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 70 และบริษัท PT Cakrawala Bara Borneo (PT CBB) บริษัทย่อยซึ่ง ปตท. ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการลงทุนในโครงการพัฒนาธุรกิจถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย
อย่างไรก็ตาม โครงการพัฒนาธุรกิจถ่านหินดังกล่าวภายหลังจากการสำรวจแล้วไม่คุ้มค่าการลงทุน จึงได้ดำเนินการปิดบริษัท และเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ ปตท.ในการปิดบริษัทย่อยที่ไม่มีกิจกรรมทางธุรกิจแล้ว โดยการปิดบริษัท PT MPC และบริษัท PT CBB ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ ปตท. แต่อย่างใด โดยได้ดำเนินการแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2562