กบน.ปรับอัตราเงินอุดหนุนกองทุนน้ำมันดีเซลใหม่ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลบี10 ต่ำกว่า บี 7 ในอัตรา 2 บาทต่อลิตร ส่วน บี20 ต่ำกว่า บี7 ในอัตรา 3 บาทลิตร มีผลพรุ่งนี้(1 ต.ค.2562)
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) เผยว่า ที่ประชุม กบน.มีมติให้ปรับอัตราเงินอุดหนุน กลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็วใหม่ สำหรับน้ำมันดีเซล บี 7 จากเดิม 0.10 บาทต่อลิตร เป็น 0.05 บาทต่อลิตร ลดลง 0.15บาทต่อลิตร ,บี10 จากเดิม 0.95บาทต่อลิตร เป็น 1.80 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.85 บาทต่อลิตร , บี 20 เดิม 4.80 บาทต่อลิตร เป็น 2.55 บาทต่อลิตร ลดลง 2.25 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้เมื่อปรับอัตราเงินอุดหนุนใหม่ ส่งผลให้ราคาขายปลีก น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 7 อยู่ที่ 25.99 บาทต่อลิตร ,บี 10 จากเดิม 24.99 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ 23.99 บาทต่อลิตร ,บี20 เดิม 20.99 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ 22.99 บาทต่อลิตร โดยดีเซล บี 7 จะมีราคาสูงกว่า บี 10 ประมาณ 2 บาทต่อลิตร และสูงกว่า บี 20 ประมาณ 3 บาทต่อลิตร
หลังการปรับส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลแล้ว จะมีการเปลี่ยนน้ำมันฐานจากดีเซลหมุนเร็ว บี7 เป็น บี10 ซึ่งจะทำให้การใช้ บี7 ลดลง และมีการใช้ บี10 เพิ่มขึ้นแทน สำหรับการใช้ บี20 คาดว่าจะชะลอตัวลงจากส่วนต่างราคาที่ลดลงจากเดิมที่ 5 บาทต่อลิตร
ด้านสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯหลังจากการปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนแล้ว จะทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบน้อยลงจาก -813 ล้านบาทต่อเดือน เป็น -392 ล้านบาทต่อเดือน และเมื่อรวมกับการนำส่งเงินเข้ากองทุนในบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ที่ส่งเงินเข้า 186 ล้านบาท/เดือน จะทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีสภาพคล่องเท่ากับ -206 ล้านบาท/เดือน
นายวีระพล กล่าวว่า การปรับเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯครั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล โดยให้เริ่มขยายส่วนต่างราคาขายปลีกบี10 ให้ต่ำกว่า บี7 ที่ 2 บาทต่อลิตร และลดส่วนต่างราคาขายปลีก บี20 ให้ต่ำกว่าน้ำมัน บี7 ที่ 3 บาทต่อลิตร โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62 เพื่อรองรับการบังคับใช้ บี10 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 โดยมี บี7 และ บี20 เป็นน้ำมันดีเซลทางเลือก