เป็นอีกครั้งที่ลูกพี่ Elon Musk สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับรูปแบบชีวิตของมนุษย์ด้วยการผสานสมองมนุษย์เข้ากับ AI ด้วยการฝังชิปซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การทดสอบของ Neuralink บริษัท Startup ในสังกัด คาดว่าภายใน 2 ปีจะสามารถเห็นผลการทดสอบที่ชัดเจนได้
มนุษย์พยายามพัฒนาวิธีการควบคุมสิ่งอื่นด้วยการสั่งงานผ่านสมองมาช้านาน โดยวิธีการที่ทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้แบ่งเป็น 2 วิธีหลัก ได้แก่
- การฝังชิปโดยตรงเข้าสู่สมอง
- การติดตั้ง Electrode บนผิวหนัง
สำหรับทางเลือกของ Neuralink คือ การฝังชิปด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Linear Edge โดยพัฒนาใยโพลีเมอร์ขนาดเล็กจำนวน 96 เส้นซึ่งเส้นใยจะมีขนาดเล็กกว่า 6 ไมโครเมตร แต่ละเส้นมี Electrode 32 ตัวที่ทำการฝังเซนเซอร์ลงบนสมองโดยหุ่นยนต์ สามารถเชื่อมต่อได้แบบไร้สายผ่านอุปกรณ์สวมใส่
เป้าหมายของการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ คือ การรักษาผู้ป่วยที่มีอาการทางด้านสมองหรืออาการที่เกิดจากความผิดปรกติของสมอง โดยใช้ AI เข้ามาสนับสนุนโดยตรง
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในครั้งนี้เหมือนการสานฝันตามนิยาย Scifi ให้เป็นจริง แต่ในทางปฏิบัตินั้นผมยังมีความสงสัยในขอบเขตบางอย่างที่จะตามมา อาทิ
- เมื่อมีการเชื่อมต่อโดยตรงกับ AI นั่นหมายความว่ามนุษย์อย่างเราจะสามารถติดเชื้อไวรัสคอมพิวเตอร์หรือโดนแฮคสมองได้ใช่หรือไม่?
- อะไรคือ Privacy ที่รับประกันความปลอดภัยขอข้อมูลที่เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์สั่งการต่าง ๆ
- ปัญหาพื้นฐานที่เกิดขึ้นกับระบบดิจิทัลจะกลายเป็นภาระของผู้ใช้เพิ่มเติมหรือไม่ เช่น การเกิด Error หรือ Bug ในช่วงเวลาวิกฤต
แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะดูล้ำเส้นไปเสียหน่อยในสายตาของเหล่าอนุรักษ์นิยม แต่ในความเป็นจริงแล้วนี่คือการเปิดประตูบานใหม่ที่จะนำไปสู่อนาคตที่ยังไม่อาจจินตนาการถึงได้ตอนนี้สำหรับการขยายศักยภาพมนุษย์ และสุดท้ายมันอาจจบลงที่การผลิตสร้างอวัยวะเทียมกึ่งดิจิทัลหรือจุดจบแบบภาพยนต์เรื่อง Bicentennial Man ก็เป็นได้?
ที่มา:
Forbes.com