จากนโยบาย Belt and Road Initiative (BRI) ของจีนที่เน้นเส้นทางการค้าภาคพื้นดินทำให้ประเทศไทยกลายเป็นจุดสนใจสำหรับการลงทุนจากผู้ประกอบการชาวจีนที่วางแผนเปิดตลาดสู่สากล ทำให้นิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดระยองได้รับความนิยมอย่างมาก
พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมไทย-จีนในจังหวัดระยองกลายเป็นพื้นที่ซึ่งได้รับการจับตามองในฐานะฐานสำคัญของ ‘เมืองอุตสาหกรรมจีน’ หรือย่านเยาวราชสำหรับงานอุตสาหกรรมที่เปิดทางสู่ตลาดโลกให้จีนในขณะที่ส่งเสริมเศรษฐกิจประเทศไทยด้วยเช่นกัน
พื้นที่ดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง Holley Group จากเมืองหางโจว ที่ให้ความสำคัญให้กับอุตการผลิตสินค้าเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและผลิตภัณฑ์ยารักษาโรคต่าง ๆ และอมตะกรุ๊ปซึ่งเป็นกำลังหลักในการพัฒนาและบริหารพื้นที่ ซึ่งพื้นที่นี้ด้รับการยอมรับจากรัฐบาลจีนในฐานะพื้นที่ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าเดียวในไทยที่สนับสนุนการลงทุนระดับเฟิร์สคลาสสำหรับบริษัทจากจีน
ตั้งแต่ปลายปี 2018 บริษัทจีนกว่า 118 บริษัทลงหลักปักฐานในพื้นที่โดยมีเงินลงทุนกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สร้างผลประกอบการกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่วนสำคัญของการเติบโต คือ นโยบาย BRI ที่ผลักดันให้นักลงทุนจากจีนกล้าลงลงทุนนอกประเทศโดยเฉพาะประเทศที่อยู่ในพื้นที่นโยบาย BRI อย่างไทย สิ่งสำคัญในการดึงดูดนักลงทุน 3 ประการ ได้แก่
1. การหลีกเลี่ยงปัญหาที่มาจากการต่อต้านสินค้าที่ผลิตจากจีนแผ่นดิยใหญ่ของชาติตะวันตก
2. ตำแหน่งที่ตั้งซึ่งอยู่ใกล้วัตถุดิบในพื้นที่ อาทิ ยาง ที่ประเทศไทยสามารถผลิตได้จำนวนมาก
3. ผู้ผลิตบางส่วนให้ความสำคัญกับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การย้ายมาที่ฐานการผลิตระยองสามารถลดระยะเวลาสินค้าออกสู่ตลาดได้
โรงงานในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นโรงงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ มีแรงงานในพื้นที่ทั้งหมดกว่า 35,000 คน ซึ่งโดยมากเป็นชาวไทย
ที่มา:
Chinadaily.com.cn