ธุรกิจการผลิตในกลุ่มโลหการนั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในการผลิตที่มีการใช้ทรัพยากรและสร้าง Carbon Footprint มากที่สุดอุตสาหกรรมหนึ่ง ภายใต้โลกยุคปัจจุบันที่ประเด็นของ ‘ความยั่งยืน’ กลายมาเป็นประเด็นสำคัญต่อทั้งภาครัฐ ผู้บริโภค และผู้คนทั่วโลก การผลิตในกลุ่มโลหการไม่ว่าจะเป็นโรงหล่อ โรงงานผลิตเครื่องจักร โรงงานผลิตแม่พิมพ์ หรือโรงงานผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ต้องหันมาหาเทคโนโลยีที่สนับสนุนนโยบายความยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม Machine Tool งาน TMTS 2024 จึงนำเสนอเทคโนโลยีด้าน Machine Tool ที่ขับเคลื่อนด้วยความยั่งยืน โดยมี 4 แบรนด์ที่น่าจับตามอง ได้แก่ WELE MECHATRONIC, 7-Leaders Corp, WAYSIA Industrial, Matrix Precision ซึ่งมีความโดดเด่นทั้งด้านเทคโนโลยีและความยั่งยืนสำหรับงาน Machine Tool
TMTS 2024 งานแสดงสินค้าด้าน Machine Tool ที่เทคโนโลยีและศักยภาพด้านความยั่งยืนมาบรรจบกัน
TMTS 2024 หรือ Taiwan International Machine Tool Show เป็นงานแสดงเทคโนโลยีและโซลูชันสำหรับ Machine Tool จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 – 31 มีนาคม 2024 โดยให้ความสำคัญกับ Digital Transformation (DX) และ Green Transformation (GX) ที่จะนำพาธุรกิจการผลิตกลุ่มโลหการและ Machine Tool ไปสู่ความยั่งยืนที่เกิดขึ้นได้จริง ซึ่งมีโซลูชันที่น่าจับตาจำนวนมากภายในงาน
MM Thailand ได้มีโอกาสพูดคุยกับแบรนด์ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชันในกลุ่ม Machine Tool ที่มีความโดดเด่นและน่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการชาวไทยผ่านการสนับสนุนของ TAITRA หรือสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน ซึ่งผู้ประกอบการที่กำลังมองหาเครื่องจักรสำหรับงานโลหการใหม่ ๆ พลาดไม่ได้!
4 แบรนด์เด็ดจากไต้หวันด้าน Machine Tool ส่งตรงจาก TMTS 2024
ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีและเครื่องจักรจากไต้หวันนั้นมีความโดดเด่นและน่าจับตาอย่างมากสำหรับผู้ประกอบการชาวไทยที่กำลังมองหาเทคโนโลยีและโซลูชันอันทันสมัยอยู่บนพื้นฐานของความคุ้มค่าที่จับต้องได้ วันนี้ MM Thailand จะพาคุณมารู้จักกับแบรนด์ด้าน Machine Tool ที่เรียกได้ว่ามีเรื่องราวและศักยภาพอันน่าสนใจไม่แพ้แบรนด์ฝั่งตะวันตกกันครับ
WELE MECHATRONICS ‘สุดยอดความแม่นยำที่เกิดจากความใส่ใจระดับไมครอนในการผลิต’
WELE MECHATRONICS CO., LTD หรือ WELE (วีลี่) ผู้ผลิตเครื่องจักรคุณภาพสูงที่มีความโดดเด่นในเรื่องของ Precision (ความแม่นยำ) และการสร้างเครื่องจักรขนาดใหญ่สำหรับการผลิตที่มีความต้องการพิเศษ เช่น เครื่องจักรผลิตกังหันลมผลิตไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่กว่า 10 เมตร ปัจจุบัน WELE มี JTEKT Group ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ TOYOTA แบรนด์ยานยนต์ระดับโลกร่วมลงทุนในสัดส่วนถึง 37% ในขณะที่ทีมบริหารหลักนั้นแยกตัวมาจาก Mechanical Industrial Research Laboratory of Industrial Technology Research Institute ในไต้หวันซึ่งมีประสบการณ์ในงานกลุ่ม Machine Tool มามากกว่า 30 ปี
‘การสกัดมือ’ หัวใจสำคัญของความละเอียดระดับ 2 ไมครอน
Mr. Jeff, Nai-Chia Chang ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดโพ้นทะเลจาก WELE ได้เล่าถึงหัวใจสำคัญของเครื่องจักรจาก WELE ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ‘ความแม่นยำและคุณภาพ’ เป็นหัวใจสำคัญที่สุดในการสร้างเครื่องจักรของแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสกัดด้วยมือ (Hand Scraping) ที่มีความละเอียดมากถึง 2 ไมครอนหรือ 0.002 มิลลิเมตร ซึ่งความต่างเหล่านี้จะแสดงผลเมื่อนำชิ้นส่วนต่าง ๆ มาประกอบรวมกัน หากมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อยจำนวนมากมารวมกันค่าความคลาดเคลื่อนจะยิ่งสูงขึ้นกว่าเดิมมาก เช่น การประกอบเครื่องจักรที่มีส่วนประกอบ 46 ชิ้นส่วนเข้าด้วยกันความคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้นจะสูงถึง 0.1 มิลลิเมตร หากต้องการยกระดับความแม่นยำ ผู้ผลิตจะต้องหาสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ให้เจอ WELE จึงได้ยกระดับในสิ่งที่เล็กน้อย แต่เป็นเรื่องของพื้นฐานเพื่อสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นได้จริง ซึ่งการใช้มือในการสกัดจุดเล็ก ๆ นั้นมีความแม่นยำกว่าเครื่องจักรและจะมีการตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อยืนยันคุณภาพ ยกตัวอย่างรางและ Table ในเครื่อง Grinding Machines หรือเครื่องเจียรขึ้นรูปจาก WELE จะมีมาตรฐานอยู่ที่ 3 ไมครอน ในขณะที่มาตรฐานญี่ปุ่นจะถูกกำหนดไว้ที่ 7 ไมครอน ซึ่งเรียกได้ว่า WELE มีมาตรฐานสูงมาก ๆ ส่งผลต่อค่าที่ถูกแปลงออกมาเป็นดิจิทัลจะออกมาเป็นค่าที่สูงกว่าอีกด้วย
iSmart ฟังก์ชันอัจฉริยะเฉพาะเครื่องจักร WELE ที่ยืดอายุของ Tool และติดตามข้อมูลพร้อมปรับแต่งการทำงานแบบอัตโนมัติ
ในการทำงาน Cutting ชิ้นส่วนแต่เดิมนั้นต้องการแรงงานหนึ่งคนประจำหนึ่งเครื่องเพื่อดูว่า Spindle ทำงานได้ตามความต้องการไหม มีการทำงานใด ๆ ที่ผิดแปลกไปหรือเปล่า เพื่อให้เกิดการปรับตั้งค่าได้เหมาะสมทันท่วงที ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นการใช้ทรัพยากรมนุษย์ไปอย่างไม่คุ้มค่า
เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น WELE จึงได้พัฒนาฟังก์ชัน iSmart ขึ้นมาเพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงแบบอัตโนมัติ โดย iSmart สามารถเพิ่มหรือลด Feed Rate เพื่อให้แน่ใจว่า Spindle Load มีการทำงานที่เหมาะสม นอกจากจะใช้งานง่ายแล้วยังเป็นการดูแลรักษา Tooling ให้มีอายุยืนยาวอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถ Monitor การทำงานทั้งหมดได้ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานที่ใช้ ระยะเวลาการผลิตที่ใช้ Downtime ที่เกิดขึ้น ทำให้สามารถวางแผนการซ่อมบำรุงและการประเมินคาร์บอนเบื้องต้นผ่านข้อมูลที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังสามารถปรับการตั้งค่าจากเดิมที่เครื่องจักรจะอยู่ในโหมดการทำงานที่มีความแม่นยำสูงได้ หากต้องการงานที่มีความเร็วสูงแต่ต้องการความแม่นยำระดับพิเศษ iSmart สามารถปรับเปลี่ยนค่าการทำงานได้อย่างง่ายดาย ซึ่งฟังก์ชัน iSmart ยังสามารถใช้งานกับเครื่องจากแบรนด์ Fanuc และ Mitsubishi ได้อีกด้วย
WELE ภาพจำของความแม่นยำและความเชี่ยวชาญด้านบริการระดับพรีเมียมที่ผู้ใช้ประทับใจ
สำหรับประเทศไทยนั้นลูกค้าส่วนใหญ่ของ WELE เป็นโรงงานขนาดเล็กมากถึง 80% อยู่ในอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ ซึ่งลูกค้าทั้งหมดต่างเห็นตรงกันว่าเครื่องจาก WELE มีความแม่นยำในการทำงานที่สูงมาก สามารถรองรับชิ้นงานขนาดใหญ่ได้ หรืองานเก็บพื้นผิวก็สามารถทำให้เงางามได้เหมือนกระจก ด้วยความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นทำให้เมื่อลูกค้าได้ใช้งานเครื่องจักรจาก WELE เครื่องแรกแล้วมักจะซื้อเครื่องอื่น ๆ ตามมาในเวลาอีกไม่นาน คุณสมบัติเหล่านี้ยังทำให้ WELE ยังได้รับรางวัลจากงาน TIMTOS มากกว่า 4 ครั้ง เรียกได้ว่าหากส่งเครื่องลงประกวดเมื่อไรรางวัลชนะเลิศก็ไม่มีทางเป็นของแบรนด์อื่นไปได้นั่นเอง
ปัจจุบัน WELE มีบริการหลังการขายที่พร้อมสนับสนุนลูกค้าที่ใช้เครื่องจักรอยู่ในประเทศไทยซึ่งนิยมใช้ในอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ โดยมีการถ่ายทอดความรู้ด้านวิศวกรรมและมีเอกสารประกอบการเรียนรู้ ไม่ว่าจะมีการฝึกอบรมการใช้เครื่องหรือทีมซ่อมบำรุงที่สามารถเข้าใจได้ง่าย ด้วยการแยกหมวดหมู่และมีภาพประกอบที่ชัดเจนโดยไม่ต้องกังวลเรื่องกำแพงของภาษา วิศวกรสามารถเข้าใจและแก้ไขปัญหาเครื่องได้อย่างง่ายดาย ทำให้การบริการหลังการขายนั้นเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยการที่ WELE ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดจนถึงระดับไมครอน สะท้อนออกมาเป็นการสร้างเครื่องจักร CNC สำหรับงาน Machining หลากหลายรูปแบบที่ต้องการความแม่นยำสูง ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อุตสาหกรรมอากาศยาน การผลิตเครื่องจักร การผลิตกังหันลมไฟฟ้า ไปจนถึงอุตสาหกรรมกลุ่มน้ำมันและก๊าซ มีความโดดเด่นทั้งด้านคุณภาพของเครื่องจักร ฟังก์ชันการใช้งาน iSmart ที่สะดวก สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ WELE Group
7-Leaders ผู้นำด้านเครื่องมือตัดเฉือนสำหรับ Machine Tool จากไต้หวัน
หากนึกถึงหัวตัดในงาน Machine Tool จากไต้หวันแล้ว แบรนด์ 7-Leaders ต้องเรียกว่าเป็นผู้ผลิตหัวกัดรายใหญ่ที่สุดของไต้หวันในฐานะผู้ผลิตเครื่องมือตัดเฉือนคาร์ไบด์ที่ครอบคลุมทั้ง End Mill, Drill, Reamer และหัวกัดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ การผลิตเครื่องจักร อุตสาหกรรมอากาศยาน อุตสาหกรรมยานยนต์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องมือแพทย์ ซึ่งได้รับความนิยมในการใช้งานทั้งในยุโรป เอเชีย สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก มีทั้งสินค้าคุณภาพสูงและบริการด้านเครื่องมือตัดเฉือนในรูปแบบ One-Stop Solution Service
3 จุดเด่นสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานจาก 7-Leaders
คุณ Winni Lin ตัวแทนขายในตลาดระดับสากลจาก 7-Leaders ได้เล่าให้ฟังเกี่ยวกับการผลิต End Mill ที่มีเชี่ยวชาญพิเศษอย่าง Reamer มีความละเอียดในการตัดชิ้นงานสูงสุดถึง 0.01 มิลลิเมตร ทำให้มีสเปคต่าง ๆ ที่หลากหลายให้เลือกใช้ แต่ความเชี่ยวชาญนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้ 7-Leaders มีความโดดเด่นเท่านั้น โดย 3 ปัจจัยหลักที่ทำให้ 7-Leaders ได้รับการยอมรับให้เป็นเบอร์ 1 ของไต้หวันมาจากเหตุผลหลัก 3 ประการ ได้แก่
- ความสามารถในการผลิต Cutting Tool คงที่ เฉลี่ย 10,000 ชิ้นต่อเดือน ทำให้สามารถส่งมอบสินค้าได้สม่ำเสมอ
- คุณภาพของหัวตัดที่ผลิตมานั้นสามารถเชื่อถือได้ มีวัสดุสำหรับการผลิตหัวกัดหลากหลายรูปแบบเพื่อรองรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูงได้ดี
- อายุการใช้งานของ Tool ที่ยาวนาน ซึ่งเป็นผลมาจากการเลือกใช้วัสดุคุณภาพดีและมีการเคลือบหัวตัดในรูปแบบกรรมวิธีที่เหมาะสมกับงานที่ใช้
นอกจากคุณสมบัติเหล่านี้แล้วผลิตภัณฑ์จาก 7-Leaders ทั้งหมดจะถูกทดสอบคุณภาพในประเทศอังกฤษอีกด้วย ความทุ่มเทและจริงจังเรื่องมาตรฐานที่เกิดขึ้นเหล่านี้ทำให้เกิดคำสั่งซื้อจากหลากหลายประเทศอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทยเองมีการจัดส่งสินค้ามาทุกสัปดาห์ เรียกได้ว่าได้รับความนิยมในการใช้งานอยู่ไม่น้อย ด้วยราคาที่สมเหตุสมผลและมีคุณภาพสูงกว่ามาตรฐานเฉลี่ย
7-Leaders ออกแบบหัวกัดชิ้นงานโดยคำนึงถึงความยั่งยืน
ภายใต้ข้อกำหนดด้านความยั่งยืนต่าง ๆ สินค้ากลุ่ม Cutting Tool จึงถูกตั้งคำถามกันอยู่เสมอมาว่าจะมีทางใดที่ทำให้การใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้เกิดความสอดคล้องกับนโยบายที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปนี้ สำหรับ 7-Leaders แล้วการออกแบบตั้งแต่พื้นฐานของวัสดุและการใช้งานไปจนถึงกระบวนการหลังจากสิ้นอายุขัยของ Tool นั้นถูกคิดออกมาแล้วอย่างครบวงจร
เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกวัสดุและการเคลือบที่เหมาะสมกับรูปแบบการตัดชิ้นงานที่ต้องการ ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหัวตัดบ่อย ลดการสิ้นเปลืองวัสดุและลดเศษที่เกิดขึ้นในการตัดเฉือนชิ้นงาน ตลอดจนการพัฒนา End Mill แบบพิเศษขึ้นที่สามารถแยกส่วนหัวตัด (Head) และส่วนก้าน (Shank) ได้ ในกรณีที่ปลายหัวกัดเกิดการเสียหายผู้ใช้สามารถเปลี่ยนหัวตัดได้ง่าย ๆ ในเวลาเพียง 5 วินาที ทำให้เกิด Downtime ที่การเปลี่ยนชิ้นส่วนหรือซ่อมบำรุงที่น้อยมาก แม้ว่าหัวกัดกับก้านจะสามารถแยกจากกันได้ แต่ความแม่นยำและศักยภาพในการผลิตนั้นยังคงอยู่ในระดับที่น่าประทับใจ ลดความสูญเปล่าที่จะเกิดขึ้นในกระบวนการผลิตจาก Cutting Tool ได้อย่างยั่งยืน
นอกจากการออกแบบหัวตัดให้มีอายุการใช้งานยาวนานและใช้เวลาในการดูแลต่ำแล้ว 7-Leaders ยังมาพร้อมกับบริการ Regrind หรือการนำหัวตัดเก่าที่หมดอายุการใช้งานแล้วมารีไซเคิลให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอีกครั้ง ซึ่งกิจกรรมการรีไซเคิลเหล่านี้พร้อมบริการสำหรับผู้ใช้ในไต้หวันและอังกฤษแล้ว แต่ประเทศไทยเองอาจจะติดปัญหาเรื่องความคุ้มค่าด้านต้นทุนจากการนำเข้าและส่งออกเพื่อรีไซเคิลนี้
One-Stop Solution Service สำหรับทุกความต้องการของ Cutting Tool มุ่งเน้นด้านคุณภาพ
นอกเหนือจากการผลิตสินค้าด้าน Cutting Tool ที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการด้านงานโลหการแล้ว 7-Leaders ยังพร้อมให้บริการแบบครบวงจรสำหรับเครื่องมือตัดเฉือนอีกด้วย เช่น การรับผลิต ODM ตามคุณสมบัติหัวตัดเฉือนที่ต้องการซึ่งเป็นการปรับแต่งแบบพิเศษ โดยลูกค้าสามารถส่งสเปคมาเพื่อให้ผลิตตามความต้องการได้ โดยจะมีการตรวจสอบด้วยว่าสามารถใช้ได้ตรงตามความต้องการหรือไม่ เรียกได้ว่าเป็นการผลิตหัวตัดเฉือนให้เฉพาะตามความต้องการก็ว่าได้ ซึ่งกระบวนการผลิตชิ้นงานไม่มีความล่าช้าอย่างแน่นอน เนื่องจากมีโรงงานอัตโนมัติที่ทำการผลิตแบบ 24/7 และควบคุมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีบริการรับเคลือบหัวตัดเฉือนด้วยเทคโนโลยีฟิล์มนาโนแบบบางที่ช่วยให้อายุการใช้งานยืนยาวขึ้นด้วยเทคนิค Splitting Arc เป็นเจ้าแรกในไต้หวัน
E140FX หัวตัดอเนกประสงค์น่าจับตาจาก 7-Leaders
สำหรับงาน TMTS 2024 นั้น 7-Leaders ได้นำหัวตัดเฉือนรุ่น E140FX ซึ่งเป็น End Mill อเนกประสงค์มาเป็นไฮไลต์สำคัญ เหมาะสำหรับการใช้งานกับวัสดุอย่างไทเทเนียมและวัสดุอื่น ๆ ที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป มาพร้อมร่องคายเศษที่มากถึง 4 ตำแหน่ง มีอัตราในการคายเศษสูง พร้อมยืดอายุด้วยการเคลือบ Nano ที่ชื่อว่า AlTiCrN หลายชั้น
นอกเหนือจาก E140FX แล้ว หัวตัดเฉือนรุ่น S428FX และ B265TX ยังเป็นหัวตัดเฉือนที่มีการใช้งานจำนวนมากในตลาดประเทศไทยด้วยราคาและคุณภาพที่สมเหตุสมผล จะเห็นได้ว่า 7-Leaders นั้นได้รับความนิยมจากทั้งตลาดในไต้หวันและตลาดระดับสากล ซึ่งเป็นผลมาจากเรื่องของคุณภาพตั้งแต่การออกแบบ การผลิต และการมีตัวเลือกในการใช้งานที่หลากหลาย ไปจนถึงแนวคิดทางธุรกิจที่สะท้อนออกมาให้เห็นถึงความใส่ใจต่อความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้นจากการใช้งาน Cutting Tool อีกด้วย ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 7-Leaders
Matrix Precision เบอร์หนึ่งเรื่องโซลูชันอัจฉริยะสำหรับการผลิตเกียร์
Matrix Precision Co., Ltd. หรือที่เราอาจจะเคยผ่านตากัน ในชื่อ Matrix Coventry ผู้เชี่ยวชาญในการผลิต Gear Grinding Machine ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท HIWIN ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องจักรอัจฉริยะของไต้หวัน โดย Matrix Precision มีต้นกำเนิดมาจากวิสัยทัศน์ของภาครัฐที่มองเห็นความสำคัญของชิ้นส่วน ‘เกียร์’ ในฐานะปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเครื่องจักร จึงได้มอบหมายให้ Industrial Technology Research Institute (ITRI) ทำการวิจัยเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องโดยดำเนินการตามแบบของเทคโนโลยีจากเยอรมนีและอิตาลี และได้แยกตัวออกมาเป็นบริษัทฯ ในภายหลัง ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีประสบการณ์ด้านการผลิตเกียร์มามากกว่า 30 ปี
กลั่นประสบการณ์เรื่อง ‘เกียร์’ สู่ Matriwork Smart Grinding Function
Alex Chiang ผู้จัดการอาวุโสทั่วไปแผนกวิจัยและพัฒนา Machine Tool หน่วยที่ 2 ได้เล่าถึงความเชี่ยวชาญของ Matrix Precision ที่สั่งสมประสบการณ์ในการผลิตเครื่องจักรที่จำเพาะเจาะจงลงไปในเรื่องของเกียร์มาอย่างยาวนาน ทำให้มีความเข้าใจในเงื่อนไขและความท้าทายต่าง ๆ ของการผลิตเกียร์ที่มีรายละเอียดปลีกย่อยจำนวนมาก ทั้งยังตระหนักดีถึงความสำคัญของชิ้นส่วนเกียร์ในฐานะชิ้นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนเครื่องจักรทั้งหลาย ทำให้เกิดการพัฒนาฟังก์ชันอัจฉริยะที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ Pain Point สำหรับการผลิตเกียร์โดยเฉพาะในชื่อ Matriwork Smart Grinding Function ซึ่งมาพร้อมกับ 6 ฟังก์ชันสำคัญ ดังนี้
- Tooth Flanks Topography – ฟังก์ชันสำหรับปรับแต่ง Flank ของเกียร์ให้มีความราบรื่นมากขึ้น ช่วยลดช่องว่างและทำให้ขนาดของเกียร์พอดี
- Servo Parameters Auto Selection – ในกรณีที่ต้องทำงานกับชิ้นส่วนหลายขนาด ค่าของมอเตอร์เซอร์โวที่ต้องใช้จะแตกต่างกันออกไป ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้ปรับตั้งค่าได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ไม่ต่างจากการที่เครื่องซักผ้าหมุนเพื่อวัดปริมาณผ้าและปรับการทำงานโดยอัตโนมัติ
- Flexible Machining Path – การทำงานของ Gear Grinder มักจะเป็นแบบล่างขึ้นบน หรือบนลงล่าง ในบางครั้งเฟืองเกียร์ก็มีมุมโค้งไม่ได้เป็นมุมตรง ฟังก์ชันนี้จะช่วยออกแบบเส้นทางของการกัดเฟืองเกียร์ให้ราบรื่นเหมาะสมโดยอัตโนมัติ
- Stock Distribution – ด้วยขนาดของฟันเฟืองเกียร์ที่แตกต่างกันไป การออกแบบและจัดการกับ Stock จึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยเฉพาะช่องว่างที่ต้องใช้ซึ่งจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับความสูญเปล่าของเวลาที่เกิดขึ้นในการใช้งานจริง โดยฟังก์ชันนี้จะทำงานร่วมกับเซนเซอร์เพื่อจัดการกับ Stock ในฟันเฟืองเกียร์อย่างสะดวกและง่ายดาย
- Touch Detection – เพื่อควบคุมคุณภาพการผลิตฟังก์ชันนี้จะทำงานควบคู่กับเซนเซอร์เพื่อตรวจดู Profiles ในการผลิตแบบ Real-Time ทำให้เห็นถึงข้อผิดพลาดหรือการสึกหรอที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
- Smart Grinding Process Parameters – ฟังก์ชันนี้จะช่วยในการตั้งค่าต่าง ๆ แบบอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วที่ต้องใช้ หรือค่าการทำงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ผลลัพธ์จากการใช้งานฟังก์ชันนี้จะช่วยให้การผลิตเกียร์ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยจำนวนมากกลายเป็นเรื่องง่าย และทำให้ชิ้นงานที่ถูกผลิตออกมามีคุณภาพสูงขึ้นอีกด้วย
Matrix Precision ส่งมอบความคุ้มค่าที่เคียงคู่ไปกับความยั่งยืน
ด้วยการที่ Matrix Precision นั้นมีความเชี่ยวชาญใน Gear Cutting Tool รอบด้าน ทำให้มีทั้งเครื่องจักรในการผลิตเกียร์และ Cutting Tool ที่เกี่ยวข้อง ในประเทศไทยก็มีการใช้งาน Cutting Tool ของ Matrix Precision ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องจากแบรนด์ใดก็ตาม ชื่อของ Matrix Precision นั้นก็จะถูกจดจำในเรื่องของคุณภาพด้านการผลิตเกียร์
ต้องเน้นย้ำว่าฟังก์ชันอย่าง Matriwork Smart Grinding Function นั้นไม่ใช่สิ่งที่บริษัทไหนก็จะมีได้ และฟังก์ชันที่ถูกพัฒนาขึ้นมานี้ยังมีเป้าหมายให้เทียบเท่ากับมาตรฐานของเยอรมนี เพื่อส่งมอบคุณค่าให้กับผู้ผลิตได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการปรับตั้งค่าได้อย่างรวดเร็วแตกต่างจากแบรนด์เอเชียอื่น ๆ หรือการปรับ Standard Operating Procedure (SOP) ได้อย่างง่ายดาย ลดความสูญเปล่าของเวลาที่เกิดขึ้น
การใช้งานฟังก์ชันที่มีในเครื่องรวมกับเซนเซอร์จำนวนมหาศาลยังทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลการใช้พลังงานได้อย่างชัดเจน การได้มาซึ่งข้อมูลที่แม่นยำเที่ยงตรงทำให้สามารถวิเคราะห์ความสูญเปล่าที่อาจเกิดขึ้นได้ในขั้นตอนต่าง ๆ อย่างชัดเจน ลดพลังงานและเวลาที่ใช้ไปพร้อมกันได้ ส่งผลให้เกิดความยั่งยืนในการผลิตเกียร์ที่ต้องการคุณภาพสูง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์จากเยอรมนีหรือจากเอเชียด้วยกัน Matrix Precision สามารถส่งมอบคุณค่าให้ได้ในราคาที่สามารถจับต้องได้ง่ายกว่าสำหรับธุรกิจในประเทศไทย
GVC-0500 เครื่อง CNC และ Gear Grinding เครื่องแรกที่ผลิตเกียร์ได้ถึง 3 รูปแบบกระบวนการ!
โดยทั่วไปแล้วการผลิตชิ้นงานนั้นประกอบไปด้วยขั้นตอนที่หลากหลายกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ และขั้นตอนเหล่านั้นมักต้องการเครื่องจักรอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อดำเนินการ แตกต่างจาก GVC-0500 เครื่อง CNC และ Gear Grinding ที่สามารถทำ Generating Grinding, Profile Grinding และ Internal Grinding สำหรับผลิตเกียร์ได้ในเครื่องเดียว
คุณสมบัติความหลากหลายในการใช้งานนี้แตกต่างจากเครื่องเดิม ๆ ในตลาดที่โดยทั่วไปแล้วมักจะทำการ Grinding ฟันเกียร์ทีละซี่ แต่เครื่อง GVC-0500 นั้นสามารถดำเนินการพร้อมกันได้หลายซี่ ผู้ใช้งานสามารถเลือกผลิตชิ้นส่วนทั่วไปหรือผลิตเกียร์ที่มีคุณภาพสูงเป็นพิเศษก็สามารถทำได้เช่นกัน สามารถครอบคลุมกระบวนการทำงานได้มากกว่าเมื่อใช้งานควบคู่กับ Matriwork Smart Grinding Function การผลิตเกียร์ที่มีคุณภาพจึงสามารถเกิดขึ้นได้รวดเร็วเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส
ด้วยการที่เครื่องจักรสำหรับผลิตเกียร์เป็นตลาดที่จำเพาะ (Niche Market) แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นชิ้นส่วนที่ขาดไม่ได้สำหรับการผลิตเครื่องจักรทุกรูปแบบ ตั้งแต่หุ่นยนต์ไปจนถึงเครื่อง CNC หรือยานพาหนะต่าง ๆ การเลือกใช้เครื่องจักรที่ถูกออกแบบมาบนพื้นฐานความเข้าใจด้านวิศวกรรมของเกียร์จะเป็นตัวช่วยป้องกันความผิดพลาดและยกระดับคุณภาพได้เป็นอย่างดี สนใจข้อมูลโซลูชันการผลิตเกียร์ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Matrix Precision
ลดเวลาและเพิ่มความปลอดภัยให้กับสภาพแวดล้อมการทำงานในโรงหล่อด้วยโซลูชันจาก WSI
WAYSIA Industrial Co., Ltd. หรือ WSI ผู้เชี่ยวชาญโซลูชันสำหรับ CNC Cutting Grinding Machine ที่มีประสบการณ์มากกว่า 33 ปี โดยในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ Meita Group ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Turbo Charger ซึ่งแต่เดิมผลิตเครื่องจักรให้กับ Meita Group เท่านั้น โดย WSI ยังมีโรงหลอมและ Machine Shop เป็นของตัวเอง ทำให้มีประสบการณ์ในฐานะผู้ใช้และผู้ผลิตไปพร้อม ๆ กัน
WCG Series เครื่อง CNC คุณภาพสูงสำหรับงานตัดและงานเจียรที่โรงงานเข้าถึงได้
คุณ Wenching Lin ตัวแทนขายและผู้จัดการโครงการของ WSI นั้นได้พูดคุยถึงความต้องการในตลาดประเทศไทยโดยเฉพาะกลุ่มโรงหล่อ (Foundry) ที่มีขั้นตอนการแปรรูปโลหะหลายขั้นตอน ซึ่งการทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่อันตรายนั้นนำมาซึ่งความท้าทายในเรื่องของคุณภาพการผลิต ต้นทุนที่ใช้ และความปลอดภัยของแรงงาน เพื่อสนับสนุนการเอาชนะความท้าทายที่เกิดขึ้น เครื่อง CNC Cutting Grinding จาก WSI ในตระกูล WCG Series จึงถูกพัฒนาขึ้นมาจากความเข้าใจและประสบการณ์ที่เริ่มจากการที่เป็นผู้ใช้สู่การผลิตเครื่องสำหรับโรงหล่อทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในไต้หวัน อินเดีย เซอร์เบีย เม็กซิโก และประเทศไทย ให้สามารถผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยปัจจุบันมีการใช้งาน WCG Series มากกว่า 200 เครื่องทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยมีการเปิดตัว WCG Series ในงาน METALEX 2023 และมีการใช้งานจริงแล้วในปัจจุบัน
แรกเริ่มเดิมทีนั้นเครื่องจักรที่ทำงานได้หลากหลายอย่าง Cutting Grinding Machine นั้นมีการนำเข้าจากญี่ปุ่น และใช้เวลาในการรอรับบริการที่ค่อนข้างยาวนาน ทั้งยังมีราคาที่ค่อนข้างสูง ซึ่งคุณภาพที่ได้นั้นอยู่ในระดับที่ดีอย่างแน่นอน แต่จะดีกว่าไหมถ้ามีเครื่องจักรที่ราคาถูกลงและทำงานได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น WCG Series จึงสามารถทำได้ทั้ง Cutting, Grinding และ Deburring ได้ในเครื่องเดียวเพื่อลดต้นทุนและทรัพยากรที่ต้องใช้ โดยสามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ Cutting เป็น Grinding ได้อย่างรวดเร็ว จึงเปลี่ยนการทำงานจากเดิม 1 คน ต่อ 1 ชิ้นส่วน เป็นการใช้แรงงาน 1 คน สามารถคุมเครื่องได้ 2 – 3 เครื่อง จึงเพิ่มกำลังการผลิตได้เป็นอย่างดี
จากการเริ่มต้นในฐานะผู้ใช้งานที่ใช้เครื่องของแบรนด์อื่นมาก่อน WSI จึงมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะปรับปรุงการทำงานและความสะดวกสบายให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งไฟสัญญาณเพื่อบ่งบอกสถานะการทำงานเพิ่มเติม มีการติดตั้ง Airblower เพื่อลดการสะสมของฝุ่นในเครื่อง และ Spindle Motor ตลอดจนการใช้ระบบปรับอากาศเพื่อยืดอายุชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรือการใช้สารหล่อลื่นที่ไม่สะสมฝุ่นแทนที่จารบีซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาได้ในระยะยาว ทั้งยังมีการปรับปรุงฟังก์ชันการทำงานให้เหมาะกับความต้องการของ WCG แต่ละรุ่น ซึ่งรองรับขนาดชิ้นงานและรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันไปตั้งแต่ WCG-450, WCG-450APC, WCG-500 และ WCG600/800 ซึ่งการออกแบบเหล่านี้ยังอยู่บนพื้นฐานราคาที่โรงงานเข้าถึงได้ง่ายและสามารถวัดความคุ้มค่าได้อย่างชัดเจน
WSI พร้อมสนับสนุนการ Transformation โรงงานสู่ระบบอัตโนมัติในทุกระดับ
WCG Series เป็นเครื่อง CNC ที่สามารถทำงานได้อัตโนมัติผ่านการตั้งค่าต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่อง Coding โดยสามารถให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการ Cutting หรือ Grinding มาตั้งค่าการทำงานผ่านระบบ Teach ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
หนึ่งในจุดเด่นของ WCG Series สำหรับโรงงานยุคใหม่นั้นอยู่ที่ความสามารถในการจำลองกระบวนการผลิต (Simulation) เพื่อตรวจสอบความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนค่าต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที โดยที่ปัญหานั้นไม่เกิดขึ้นจริง และสำหรับชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่ยังมีระบบ Auto Pallet Changing ที่เพิ่มความสะดวกในการเตรียมชิ้นงานไปพร้อมกันระหว่างผลิต รวมถึงเคลื่อนย้ายชิ้นงานขนาดใหญ่เข้า Chamber และมีการใช้ประตูอัตโนมัติพร้อม Linear Guide ที่ทำงานได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย
นอกจากนี้ WCG Series ยังสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่ายเพื่อยกระดับการทำงานผ่านข้อมูลให้กับฝ่ายบริหารจัดการโรงงาน ตลอดจนการแจ้งเตือนปัญหาที่เกิดขึ้นในสายการผลิตได้แบบ Real-Time ซึ่งทำให้เครื่องจักรสามารถทำงานได้ 24/7 โดยไม่ต้องใช้แรงงานควบคุมเครื่องจำนวนมาก
ในด้านการบริการ WSI มีความเชี่ยวชาญในฐานะ SI (System Integrator) ที่สามารถบูรณาการระบบอื่น ๆ เข้ากับ WCG Series ได้ เช่น Machine Tending Robot ซึ่งเหมาะกับการขนย้ายชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก พร้อมบริการหลังการขายในประเทศไทยโดยผู้เชี่ยวชาญจากไต้หวันที่มีประสบการณ์ในประเทศไทยมากกว่า 20 ปี
ลดเวลาและเพิ่มความปลอดภัยให้กับสภาพแวดล้อมการผลิตของโรงหลอม
การใช้งาน WCG Series จาก WSI นั้นหัวใจสำคัญอยู่ที่ความสามารถในการผลิตที่เพิ่มขึ้น ลดเวลาที่ต้องใช้ และเพิ่มความปลอดภัยให้กับสภาพแวดล้อมของโรงหลอมที่โดยทั่วไปแล้วมักจะมีอุณหภูมิที่สูง ไม่เหมาะกับแรงงาน ตลอดจนมีเศษฝุ่นผงอันตรายจำนวนมาก ยกตัวอย่าง กรณีที่ผู้ใช้งานผลิตชิ้นงานออกจากโรงหล่อที่น้ำหนัก 75 กิโลกรัม การขนย้ายต้องกลิ้งชิ้นงานไปตามทาง หากต้อง Grinding ซึ่งมีน้ำหนักสูง และใช้เวลาทำงานมากถึง 30 นาที หากใช้ WCG Series สามารถลดเวลาเหลือ 10 นาที และลดปัญหาด้านการเคลื่อนย้ายเพื่อเปลี่ยนมุมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่น ๆ ของ WCG Series มีดังนี้
- มีตัวกรองฝุ่น ทำให้สภาพแวดล้อมในโรงงานไม่สกปรกและปนเปื้อนไปด้วยเศษจากการแปรรูป และสำหรับเครื่องขนาดใหญ่จะมีกล่องเก็บฝุ่น
- ลดเวลาที่ใช้ในการทำงานได้อย่างชัดเจน
- มีไฟสัญญาณแสดงสถานะการทำงานเพื่อความปลอดภัยแตกต่างจากเครื่องตระกูลเดียวกันจากแบรนด์ญี่ปุ่น
- มีถาดสำหรับการทิ้งเศษที่แบ่งส่วนเพื่อให้สะดวกต่อการทำความสะอาด
- มาพร้อมกับเซนเซอร์ความปลอดภัยที่ช่วยให้ผู้ควบคุมงานสามารถปรับตั้งค่าจากภายในเครื่องได้ โดยไม่ต้องกังวลสำหรับการผลิตชิ้นงานขนาดใหญ่ ไม่ต้องเข้า ๆ ออก ๆ เครื่องให้ยุ่งยากเสียเวลา (WCG-600/800)
- สร้างเศษน้อย ไม่เกิดการสูญเสียทรัพยากรที่ไม่จำเป็นในการผลิต
จะเห็นได้ว่า WCG Series จาก WSI นั้นออกแบบมาเพื่อการทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมและเงื่อนไขความต้องการของโรงหลอมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของงานที่ต้องการ ความสะดวกในการตั้งค่าต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ ความปลอดภัยของผู้ใช้และสภาพแวดล้อม ที่สะท้อนให้เห็นความคุ้มค่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเปรียบเทียบฟังก์ชันกับราคาในท้องตลาด สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดตามได้ที่ WSI
นึกถึงความคุ้มค่าและความแม่นยำสำหรับ Machine Tool นึกถึงเครื่องจักรจากไต้หวัน!
การเข้าเยี่ยมชมงาน TMTS 2024 ในครั้งนี้นั้นต้องยอมรับว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่และประทับใจกับเครื่องจักรจากไต้หวันอย่างมาก สิ่งที่สามารถสัมผัสได้จากการพูดคุยกับผู้ผลิตเครื่องจักรและบรรยากาศในงาน คือ เครื่องจักรจากไต้หวันนั้นให้ความสำคัญอย่างมากกับความคุ้มค่าในการใช้งาน โดยเน้นไปที่คุณภาพของงานที่เรียกว่าอยู่ในระดับกลาง-บน แต่ราคาอยู่ในระดับที่เข้าถึงได้ ในขณะที่ยังคงให้ความสำคัญกับมาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
สิ่งที่รู้สึกทุกครั้งเมื่อได้รับโอกาสในการพูดคุยกับผู้ประกอบการจากไต้หวัน คือ ความประหลาดใจ เพราะผู้ผลิตจากไต้หวันต่างมีมุมที่ใส่ใจและลงรายละเอียดมาก ๆ ทำให้ทุกครั้งที่ได้พูดคุยจะตั้งตารอที่ได้พบนวัตกรรมและศักยภาพใหม่ ๆ ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโซลูชันอัจฉริยะที่ใช้งานได้ง่าย ฟังก์ชันที่เหนือความคาดหมาย หรือการใช้มือเพื่อกัด สกัด เจียรชิ้นงานในฐานะทักษะที่เป็นหัวใจสำคัญในการทำให้ธุรกิจโดดเด่นและก้าวหน้า แตกต่างจากการรับรู้ทั่วไปในยุคที่เครื่องจักรมักจะถูกมองว่ามีความแม่นยำและศักยภาพสูงกว่ามนุษย์ ทั้งยังรับรู้ได้จากการที่หน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ เช่น สถาบันวิจัยในแต่ละสาขาที่เกี่ยวข้องก็มาร่วมออกบูธแสดงนวัตกรรมที่น่าสนใจสำหรับภาคการผลิต และผลงานเหล่านี้ก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ถูกต่อยอดออกมาเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ด้วยตัวเอง
ศักยภาพเหล่านี้ที่ได้พบเจอมาอาจเป็นตัวแทนที่บ่งบอกได้ว่า ‘เครื่องจักรจากไต้หวัน’ นั้นมีความน่าสนใจขนาดไหน และทำไมไต้หวันถึงมีความโดดเด่นในเรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยีพื้นฐานอันล้ำสมัยอย่างเซมิคอนดักเตอร์ เพราะไต้หวันใส่ใจในทุกรากฐาน ตั้งแต่การผลิตเครื่องจักรเพื่อสร้างเครื่องจักร หัวกัด และชิ้นส่วนตัดเฉือน ตลอดจนการผลิตเกียร์ ซึ่งงาน Machine Tool เหล่านี้ถือเป็นฐานรากอันสำคัญสำหรับทุกอุตสาหกรรมการผลิตที่มีในปัจจุบัน
MM Thailand ขอขอบคุณ TAITRA ที่ให้การสนับสนุนและเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ กับเครื่องจักรและโซลูชันสำหรับ Machine Tool ที่งาน TMTS 2024 มาในครั้งนี้ครับ