จากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปี 2020 ที่ผ่านมานั้นต้องยอมรับว่าทั่วโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กอย่างมากมาย ในภาคอุตสาหกรรมเองนั้นเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมหาศาลเพื่อแก้ไขสถานการณ์การระบาดของไวรัส ตลอดจนทิศทางเศรษฐกิจที่พังทลาย ในปีนี้เทคโนโลยีใดจะเข้ามามีบทบาทและต้องจับตามองสำหรับภาคการผลิตบ้าง? เรามาลองดูกันว่า Forbes คิดเห็นอย่างไรกันครับ
ต้องยอมรับว่าในปี 2020 นั้นภาคการผลิตเกิดการชะลอตัวไปจนถึงการชะงักงันจากอุปสรรคที่รุมเร้า แต่ในทางกลับกันสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว คือ การปรับเปลี่ยน (Transformation) ที่รวดเร็วขึ้นอย่างมาก หลายบริษัททะยานเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 และอีกไม่น้อยที่หันมาให้ความสำคัญกับระบบอัตโนมัติในรูปแบบพื้นฐาน ซึ่งเทคโฯโลยีเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการแข่งขันในปัจจุบัน
โดย Forbes ได้นำเสนอเทรนด์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่จะมีบทบาทสำคัญในปี 2021 เอาไว้ด้วยกัน 6 ประเด็น ดังนี้
1. Glocalization (ถิ่นโลกภิวัฒน์)
Glocalization นั้นเป็นการรวมกันของคำว่า Globalization + Localization หรือเป็นการวมเอาความเป็นสากลเข้ากับความเป็นพื้นถิ่นหากจะมองให้ง่าย จากปัญหา COVID-19 ที่เกิดขึ้นทำให้ชายแดนและน่านฟ้าของหลายประเทศถูกปิดงเพื่อรักษาความปลอดภัยในการรับมือโรคระบาด ในขณะเดียวกันการขนส่งทรัพยากรหรือวัตถุดิบข้ามประเทศก็กลายเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากขึ้น บริษัทจำเป็นต้องปรับสมดุลสำหรับการผลิตในหลากหลายมิติไม่ว่าจะเป็นการจัดจำหน่ายหรือนำเข้าต่าง ๆ เพื่อให้บริษัทยังคงความสามารถในการแข่งขันเอาไว้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเฟ้นหาซัพพลายเชนที่มีศักยภาพในพื้นที่
2. การปรับตัวสู่เทคโนโลยีที่ทันสมัย
ความคล่องตัวและความรวดเร็วจะจำเป็นอย่างมากในปี 2021 และโลกหลัง COVID-19 ยกตัวอย่างเช่น การมี Cobot ไว้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เนื่องจากสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วแบบ Real-time รวมถึงการทำงานที่ซับซ้อนเมื่อต้องทำงานร่วมกับมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังแห่งการประมวลผลและการประมวลข้อมูล บริษัทต้องขยับตัวให้เข้าใกล้กับจุดที่ข้อมูลเกิดขึ้นมากที่สุด เพื่อลดความหน่วงและเร่งกระบวนการ
3. การถาโถมของเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ
โลกได้ประจักษ์แล้วว่าท่ามกลางวิกฤติที่เกิดขึ่น เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติสามารถสร้างศักยภาพในการแข่งขันและความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาซัพพลายเชนที่ขาดแคลน หรือความต้องการที่เพิ่มอย่างรวดเร็ว เช่น อุปกรณ์การแพทย์เป็นต้น ด้วยความสามารถที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและคุณสมบัติพิเศษของการผลิตแบบเติมเนื้อวัสดุทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปี 2021 นั้นการพิมพ์ 3 มิติจะเป็นเทคโนโลยีที่มาแรงอย่างมากสำหรับการผลิต และอาจกระจายไปถึงผู้บริโภคทั่วไปได้อย่างไม่ยากเย็น
4. การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน IT
โครงสร้างพื้นฐานด้าน IT กลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับการผลิตในยุคปัจจุบัน การปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ให้สอดรับกับการทำงานยุคปัจจุบันรวมถึงการขยับขยายในอนาคตที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจึงเป็นเรื่องสำคัญ หัวใจสำคัญของโครงสร้างพื้นฐาน IT ยุคใหม่ต้องรองรับการปรับขยายขนาด ความยืดหยุ่น และการประยุกต์ใช้ได้ตรงกับความต้องการขององค์กรเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการบริการ ข้อมูล วิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง
5. ปัญญาประดิษฐ์ที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง
การทำงานระยะไกลยังคงเป็นสิ่งจำเป็นในปี 2021 และแน่นอนว่าซัพพลายเชนยังคงเผชิญหน้ากับปัญหา Disruption อยู่เช่นเดิม บริษัทจำเป็นต้องหาวิธีในการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ไปจนถึงโรงงานและท้ายที่สุด คือ ผู้บริโภคหรือผู้ใช้งาน AI หรือปัญญาประดิษฐ์จะกลายเป็นมาตรฐานหลักในการแก้ปัญหาดังกล่าว แต่ทว่า AI ก็ยังมีจุดบอดบางประการที่ไม่สามารุตัดสินใจหรือตอบสนองต่อสถานการณ์ได้แบบมนุษย์ ดังนั้นการที่ AI จะสามารถคิดหรือตอบสนองได้ในแนวทางเดียวกับมนุษย์เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการและคุณค่าต่าง ๆ จึงเป็นกุญแจสำคัญในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
6. การลงทุน IIoT ที่เพิ่มขึ้น
มีการคาดการณ์จาก Rockwell Automation ว่า ตลาด IIoT นั้นจะเติบโตจากมูลค่า 77.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2020 ไปเป็น 110.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2025 โดยผู้ผลิต 75% มีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในโรงงานอัจฉริยะในปีต่อ ๆ ไป ในขณะที่เซนเซอร์ IIoT นั้นสร้างข้อมูลกว่า 1.44 พันล้านตำแหน่งข้อมูลต่อโรงงานในหนึ่งวัน จะเห็นได้ว่าการบูรณาการ IT/OT นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะเพิ่มประสิทธิภาพพร้อมเร่งกระบวนการความสำเร็จของ Digital Transformation ได้เป็นอย่างดี
ที่มา:
Forbes.com
บทความที่เกี่ยวข้อง:
AI จะช่วยให้กิจกรรมการผลิตปลอดภัยท่ามกลางการระบาดใหญ่ได้อย่างไร?