บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ผุด 2 โรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว คือ โรงไฟฟ้าเซน้ำน้อย 2 และเซกะตำ 1 ในแขวงจำปาสัก ด้วยงบการลงทุน 1,750 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะเริ่มจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) ประมาณกลางเดือนกรกฎาคมนี้ และยังมีอีก 6 โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ครบทั้ง 8 โครงการ ในปี 2562 มีกำลังการผลิตของทั้ง 8 โครงการ คือ 102.6 เมกะวัตต์
2 โรงไฟฟ้าพลังน้ำ กำลังการผลิตรวม 20.1 เมกะวัตต์
โรงไฟฟ้าเซน้ำน้อย 2 มีกำลังการผลิต 6.7 เมกะวัตต์ ส่วนโรงไฟฟ้าเซกะตำ 1 มีกำลังการผลิต 13.4 เมกะวัตต์ โดยทั้ง 2 โรงไฟฟ้า มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าลาวเป็นระยะเวลา 25 ปี นับตั้งแต่วันที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบธุรกิจโครงการไฟฟ้าพลังน้ำทั้ง 2 โครงการผ่าน บริษัท เขื่อนไฟฟ้าเซน้ำน้อยและเซกะตำ จำกัด (Xenamnoy and Xekatam Hydropower Co.,Ltd.)
คุณปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง โรงไฟฟ้าพลังน้ำทั้ง 2 โครงการว่าโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซน้ำน้อย 2 และเซกะตำ 1 เป็นการร่วมลงทุนระหว่าง บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (ลาว) จำกัด และบริษัทเอสวี กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทวิศวกรรมชั้นนำในประเทศลาว และมีประสบการณ์ในการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภค รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำและโครงการชลประทาน
โดยโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โรงนี้มีกำลังการผลิตรวม 20.1 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าเชื่อมต่อกัน ตั้งอยู่ในแขวงจำปาสัก ใช้งบประมาณสำหรับพัฒนาโครงการเป็นจำนวนเงิน 1,750 ล้านบาท เป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้กังหันพลังน้ำแนวนอนชนิดฟรานซิส 3 เครื่อง และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3 เครื่อง โดยคาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าขายได้ประมาณปีละ 120 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง
ทั้งนี้ กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว บริษัทฯ ได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเป็นเวลา 25 ปี กับการไฟฟ้าประเทศลาว (Electricité du Laos: EDL) ผ่านโครงข่ายสำหรับการจ่ายไฟฟ้าผ่านทางสายส่งไฟฟ้า 115 กิโลโวลต์ ซึ่งการไฟฟ้าประเทศลาวเป็นเจ้าของสายส่งไฟฟ้า ซึ่งบริษัทฯ ได้ลงทุนสร้างสายส่งไฟฟ้าเหล่านี้เองทั้งหมด โดยออกแบบและก่อสร้างระบบเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้า เพื่อเชื่อมเข้ากับระบบของการไฟฟ้าประเทศลาว
โครงการไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กทั้ง 8 โครงการ
คุณปรียนาถ กล่าวต่อว่า แม้ว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าใน สปป.ลาว จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดภายในประเทศยังคงต้องพึ่งพาไฟฟ้าพลังน้ำเป็นอย่างมาก เนื่องจากไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่ผลิตได้จะส่งออกมายังประเทศไทย โดยตัวแปรผลักดันที่สำคัญต่อการเติบโตในกิจการไฟฟ้าของประเทศลาว คือ การเติบโตของจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าและการพัฒนาระบบโดยรวม
ในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศที่มาจากเขื่อนที่สร้างเสร็จแล้วหรืออยู่ระหว่างการดำเนินการจะค่อนข้างมีข้อจำกัดทางการเติบโตของไฟฟ้าพลังน้ำใหม่ ดังนั้น บริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กที่มีอยู่ในสปป.ลาว โดยได้ลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำอายุสัมปทาน 25 ปี จำนวน 8 โครงการ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ แขวงจำปาสัก แขวงไซสมบูน และแขวงเชียงขวาง ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่เหมาะแก่การสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบน้ำไหลผ่าน จึงไม่จำเป็นต้องมีอ่างเก็บน้ำ เนื่องจากกระบวนการผลิตจะใช้น้ำที่ไหลอยู่ในแม่น้ำตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะในการผลิตไฟฟ้า
โดยโรงไฟฟ้าทั้ง 8 โครงการจะมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 102.6 เมกะวัตต์ นอกจากเซน้ำน้อย 2 และเซกะตำ 1 ยังมีอีก 6 โครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ได้แก่ น้ำแจ 1 (15 เมกะวัตต์) น้ำคาว 1 (15 เมกะวัตต์) น้ำคาว 2 (15 เมกะวัตต์) น้ำคาว 3 (15 เมกะวัตต์) น้ำคาว 4 (15 เมกะวัตต์) และน้ำคาว 5 (7.5 เมกะวัตต์)
คาด 43 โครงการโรงไฟฟ้าพร้อมเปิดดำเนินการในปี 2564
ภายในปี 2564 บริษัทฯ คาดว่าจะมีโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 43 โครงการ กำลังการผลิตรวม 2,356.9 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 2,111.1 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 114.2 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 102.6 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม 16.0 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง 13.0 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตไอน้ำรวม 500.0 ตันต่อชั่วโมง
โดยได้ศึกษาวิจัยและพิจารณาที่จะลงทุนเพิ่มเติมในประเทศที่มีศักยภาพครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ ลาว อินโดนีเซีย เวียดนาม เมียนมา มาเลเซีย กัมพูชา และฟิลิปปินส์ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าในอนาคตบริษัทฯ จะมีการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศโดยใช้พลังงานหมุนเวียนจาก 10% เป็น 25-30% ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ คุณปรียนาถ กล่าวทิ้งท้าย
|
EXECUTIVE SUMMARY
B. Grimm Power Public Co., Ltd. has invested approximated 1,750 million baht of its budget to put up hydro power plants in Laos People’s Democratic Republic as Xenamnoy 2 Power Plant and Xekatam 1 Power Plant in Champasak district, which both projects shall begin to distribute commercial electrical current in the middle of June this year. B. Grimm Power Public Co., Ltd. is the owner of both hydro power plant projects operated through Xenamnoy and Xekatam Hydropower Co., Ltd.
