เป็นที่รู้กันดีว่าการทำงานของเครื่องจักร เครื่องยนต์ อาจเป็นอันตรายต่อผู้สัมผัสเสียงดังเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะกับผู้ที่ต้องทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งการใส่อุปกรณ์ป้องกันเสียงอาจช่วยลดอันตรายได้ แต่จะเลือกอย่างไรให้ถูกวิธี ตามมาดูกันครับ!
ปัจจัยที่ควรคำนึงถึงในการเลือกอุปกรณ์ป้องกันเสียง
1. ระดับเสียงที่ผู้ปฏิบัติงานสัมผัส ปกติแล้วเราจะใส่อุปกรณ์ลดเสียงเมื่อระดับเสียงสูงกว่า 85 dBA ดังนั้น ผู้ที่สัมผัสระดับเสียงที่น้อยกว่าหรือเท่ากับ 100 dBA ควรเลือกใช้ปลั๊กอุดหูหรือที่ครอบหู แต่ถ้าสัมผัสระดับเสียงที่มากกว่า 100 dBA ก็ควรเลือกใช้ปลั๊กอุดหูควบคู่กับที่ครอบหู
2. ระดับเสียงที่ต้องการลด ตามคำแนะนำของ NIOSH ระบุว่า ค่า ความสามารถในการลดเสียง หรือ NRR (Noise Reduction Rating) ที่แจ้งอยู่บนป้ายฉลากของอุปกรณ์ลดเสียง ควรมีการปรับลด ดังนี้ คือ
– ที่ครอบหู (Ear Muffs) ลบออก 25% จากค่า NRR
– ปลั๊กอุดหูแบบโฟม (Foam Ear Plugs) และแบบสั่งทำโดยเฉพาะ (Custom Molded Ear Plugs) ลบออก 50% จากค่า NRR
– ปลั๊กอุดหูที่เหลือทั้งหมด ลบออก 70% จากค่า NRR
หลังจากที่มีการปรับลดค่า NRR แล้ว ลำดับถัดไปก็ใช้สูตรคำนวณเพื่อหาค่าระดับเสียงที่คาดว่าผู้ปฏิบัติงานจะสัมผัสจริงเมื่อใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงชนิดนั้น ๆ แล้ว ซึ่งสูตรในการคำนวณมีดังนี้ คือ **ระดับเสียงที่สัมผัส = ระดับเสียงดังในที่ทำงาน (dBA) – [(ค่า NRR ที่ปรับลดแล้ว) – 7]**
3. ความสะดวกและความกระชับ ควรเลือกอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่มีความกระชับและสะดวกสบาย เพื่อให้มั่นใจว่าจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุดเวลาใช้งาน
4. ความเหมาะสมสำหรับการใช้งาน เป็นข้อสำคัญที่ควรคำนึงถึง โดยอาจเลือกดังนี้
– สภาพแวดล้อมการทำงานที่สกปรก ควรเลือกใช้ที่ครอบหูเพราะถ้าใช้ปลั๊กอุดหูอาจมีความเสี่ยงต่อภาวะการติดเชื้อในรูหูได้
– งานในพื้นที่งานที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูง ควรเลือกใช้ปลั๊กอุดหู
– งานที่ต้องการความคล่องตัวการใช้อุปกรณ์ลดเสียงแบบทำจากโฟมน่าจะมีความเหมาะสมมากที่สุด
5. ความจำเป็นในการได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัย ผู้ปฏิบัติงานไม่ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงที่มีการลดระดับเสียงมากเกินความจำเป็นเพราะอาจเป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานหรือการได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัย
6. ภาวะเจ็บป่วย การให้ทีมงานใส่อุปกรณ์ป้องกันเสียงชนิดเดียวกันหรือขนาดเดียวกัน อาจจะส่งผลที่แตกต่างกันได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการควรพิจารณาและสนองความต้องการของทีมงานแต่ละคน โดยทีมงานควรได้รับโอกาสในการพิจารณาเลือกอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่เหมาะสมกับตัวเองและมีความปลอดภัยด้วยตัวเอง
ที่มา:
Thailandindustry
npc-se.c