‘บราเดอร์’ หนึ่งในผู้นำด้านโซลูชันเทคโนโลยีการพิมพ์แบบครบวงจรของโลก ทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ เครื่องพิมพ์ฉลาก สแกนเนอร์และจักรเย็บผ้า ที่สามารถตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของลูกค้าจนเป็นที่ยอมรับในตลาด แม้วันนี้บราเดอร์จะก้าวขึ้นแท่นมาเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาด แต่ก็ยังคงมีความมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าเพื่อโลกที่ไม่หยุดนิ่ง ด้วยการมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี สินค้า และบริการ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทุกยุคทุกสมัย ล่าสุดบราเดอร์ได้นำเทคโนโลยีทางด้าน Digital (IOT) มารองรับการเติบโตทางธุรกิจและเพื่อช่วยแก้ปัญหาต่างๆ อาทิ การจัดการเอกสาร การควบคุมค่าใช้จ่าย
3 ปรับ รับมือ Internet of Things
คุณพงษ์พันธ์ สุระวัฒน์เจริญ Senior Marketing Manager บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึง Internet of Things (IoT) ว่า IoT เป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมในเรื่องของการผลิต เพิ่มผลิตภาพ ในขณะเดียวกันอาจจะเป็นเรื่องของการลดต้นทุน อีกทั้ง ยังเข้าไปช่วยส่งเสริม ยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเมื่อมี IoT แล้วจะทำให้สามารถเก็บ Data ได้มากขึ้น ใช้ Big Data ในการเข้าไปช่วยวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ทั้งนี้ การเข้ามาของ IoT ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบราเดอร์ในแง่ของผู้ผลิต
“เนื่องจากบราเดอร์เป็นผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ การมาของ IoT ไม่ได้ทำให้ปริมาณการพิมพ์ลดน้อยลง หรือหากจะลดลงก็เพียงในบางเซกเม้นท์หรือบางงาน แต่พอมีอินเทอร์เน็ตเข้ามาทำให้ข้อมูลข่าวสารเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลและหมดไป ข้อมูลมีอายุสั้นลง เพราะฉะนั้นเหตุการณ์เหล่านี้จึงทำให้เกิดการพิมพ์การใช้ข้อมูลเหล่านี้อยู่ จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบราเดอร์ในฐานะผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ เรียกได้ว่าเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ไปสู่รูปแบบอื่น
ทั้งนี้ ทุกคนต้องปรับเปลี่ยน ปรับตัว ปรับปรุงให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามา เพราะเทคโนโลยีเหล่านั้นเข้ามา Disrupt Business Model เก่าๆ ทำให้ธุรกิจที่ไม่ปรับตัวหรือปรับตัวไม่ได้ ไม่สามารถอยู่รอดบนเส้นทางธุรกิจได้ การปรับตัวตรงนี้ เช่น ตลาดรีเทล ในการเข้ามาของอินเทอร์เน็ตจะทำให้คนกลางหายไป พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป เปลี่ยนจากการเดินไปซื้อของที่ร้านค้า หันมาซื้อของทางอินเทอร์เน็ตแทน แต่ภาพรวมของตลาดรีเทลไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่เปลี่ยนวิธีการซื้อ เปลี่ยนรูปแบบการเข้าหาสินค้า เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการต้องปรับตัว คิดหาวิธีการว่าทำอย่างไรจึงจะเพิ่มมูลค่าให้ตัวเองได้ เรียกได้ว่าต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย อีกทั้ง ต้องปรับปรุงหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเอง และปรับเปลี่ยนตัวเองให้สอดคล้องกับกระแสจึงจะทำให้สามารถอยู่รอดได้”
ปลุกปั้นผลิตภัณฑ์ผันกระดาษสู่ดิจิทัล
นอกจากนี้ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับ Internet of Things นั้น คุณพงษ์พันธ์ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ของบราเดอร์แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ User และ IT Manager หรือผู้ดูแลระบบ ซึ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบราเดอร์ไม่ว่าจะเป็น Scanner หรือ Printer ที่แปลงเอกสารจากกระดาษมาเป็นดิจิทัล ซึ่งรองรับมาตรฐานของอุตสาหกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Apple Air Print และ Google Cloud Print ซึ่งรองรับทั้ง iOS และ Android ทั้งนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงเมื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล คือ ข้อมูลความปลอดภัยของระบบ Data
“Printer หรือ Scanner ในตลาดกลุ่ม Consumer มีราคาไม่แพง แต่จะไม่มีฟังก์ชั่นเรื่องของความปลอดภัย แต่ขณะที่ในส่วนของ Business Use จะมีราคาสูงกว่า แต่มีฟังก์ชั่นรักษาความปลอดภัย เช่น Data Encryption หรือการเข้ารหัส ข้อมูลที่ส่งจาก Printer ถ้าไม่มีการเข้ารหัสอาจจะถูกแฮ็กไปได้ หากเปิดฟังก์ชั่นนี้ไว้จะทำให้ส่งข้อมูลเหล่านี้เข้ารหัส ซึ่งเราก็พยายามศึกษาตลาดอย่างละเอียด SSL (Secure Socket Layer) เป็นหนึ่งใน Process ด้านความปลอดภัยของบราเดอร์ อีกจุดหนึ่งเป็นเรื่องของฟีเจอร์ของเครื่อง เป็นเรื่องของการทำ Secure Print ในกรณีที่ใช้ Printer แชร์กัน ใช้เป็นลักษณะของ Username Password ซึ่งในปัจจุบันบราเดอร์มีผลิตภัณฑ์เรือธงอย่าง MFC-L8900CDW ที่สามารถรองรับ IoT ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติอัดแน่นด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลัง มีความคุ้มค่า และมีความปลอดภัยอีกด้วย” คุณพงษ์พันธ์ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ บราเดอร์เป็นหนึ่งในผู้นำตลาด B2B ในอุตสาหกรรม Printer มีหลายเซกเม้นท์ ซึ่งในกลุ่มของมัลติฟังก์ชั่นบราเดอร์เป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่ IoT ฟังก์ชั่นเป็นเครื่องมือตัวหนึ่งที่ทำให้บราเดอร์สามารถก้าวขึ้นอันดับหนึ่งของมาร์เก็ตแชร์ได้ โดยจุดเด่นของบราเดอร์ คือ สามารถมอนิเตอร์งานผ่านระบบเครือข่ายได้และยังสามารถมอนิเตอร์ผ่านเครื่องที่เชื่อมต่อ USB ได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การที่จะสามารถอยู่รอดในยุคดิจิทัลได้นั้น จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยน ปรับตัว ปรับปรุงให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามา มิฉะนั้น จะถูก Disrupt Business Model ให้หายไปจากวงโคจรของธุรกิจ