สมอ. เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ ผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแสดงความคิดเห็นร่างมาตรฐานหลอดแอลอีดีขั้วคู่ ที่ออกแบบเพื่อเปลี่ยนทดแทนหลอดฟลูออเรสเซนซ์ชนิดตรง ก่อนประกาศเป็นมาตรฐานบังคับ
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภค หันมานิยมใช้หลอดไฟแอลอีดีเป็นจํานวนมาก เห็นได้จากยอดการนําเข้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากคุณสมบัติด้านการประหยัดพลังงานของหลอดไฟแอลอีดี และมีความคงทนมากกว่าหลอดไฟทั่วไป
อย่างไรก็ตาม หลอดไฟแอลอีดีเหล่านี้เป็นสินค้าที่ใช้ภายในอาคารและใช้ในที่อยู่อาศัย อาจเป็นอันตรายได้หากใช้สินค้าที่มีคุณภาพต่ำ สมอ. จึงจําเป็นต้องควบคุมคุณภาพ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายอันอาจจะเกิดแก่ประชาชน ปัจจุบันในประเทศไทยมีผู้ทําสินค้าดังกล่าวจํานวน 195 ราย และมีผู้นําเข้าจํานวน 685 ราย สมอ. จึงได้กําหนดให้หลอดแอลอีดีขั้วคู่ที่ออกแบบเพื่อเปลี่ยนทดแทนหลอดฟลูออเรสเซนซ์ ชนิดตรง เป็นสินค้ามาตรฐานบังคับ
โดยมาตรฐานหลอดแอลอีดีขั้วคู่ที่จะกําหนดเป็นมาตรฐานบังคับนั้น มีจุดประสงค์เพื่อใช้ทดแทนหลอดฟลูออเรสเซนซ์ที่มีขั้วหลอดแบบเดียวกัน กําลังไฟฟ้าที่กําหนด ไม่เกิน 125 W แรงดันไฟฟ้าที่กําหนด ไม่เกิน 250 V ซึ่งมีการทดสอบด้านความปลอดภัย เช่น สามารถทนความร้อนได้หากเกิดอุณหภูมิสูงกว่าปกติที่ขั้วหลอด ไม่ลามไฟ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายในระหว่างการสับเปลี่ยนและการสัมผัสหลอดไฟโดยไม่ได้ตั้งใจในระหว่างการใช้งาน รวมถึงการทดสอบแสงจากหลอดไฟ โดยจะต้องไม่เป็นอันตรายต่อดวงตาของผู้บริโภค เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้อง ก่อนการบังคับใช้มาตรฐาน สมอ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนําผลที่ได้เสนอต่อคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) เพื่อประกอบการพิจารณาก่อนมีการดําเนินการตามขั้นตอนทาง กฎหมายเพื่อการประกาศใช้ต่อไป ผู้ประสงค์จะแสดงความคิดเห็นสามารถส่งข้อเสนอได้ที่ www.tisi.go.th หรือ ส่งหนังสือถึงสํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2562