หัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย ภายใต้แนวคิด ‘Thailand 4.0’ คือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรม และการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทยเพื่อให้เกิดการลงทุน และการสร้างการผลิตในประเทศ รวมถึงการสร้างรายได้จากสินค้าที่ผลิตได้ในประเทศ ทำให้เกิดการจ้างงาน ตลอดจนสามารถลดการนำเข้าสินค้าได้ โดยมุ่งเน้นอุตสาหกรรมไปยัง First S-Curveคือ การต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม ลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปัจจัยผลิต และ New S-Curve ที่เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ได้มากที่สุดบนพื้นฐานของประเทศ โดยจะเน้นไปในอุตสาหกรรมใหม่ๆ และเป้าหมายหนึ่งในนั้น คือ ‘อุตสาหกรรมระบบสำรองไฟฟ้า (Energy Storage)’
ส.อ.ท. จับมือ กนอ.
นำร่องอุตสาหกรรมระบบสำรองไฟฟ้า
อุตสาหกรรมระบบสำรองไฟฟ้า (Energy Storage) จะมุ่งเน้นนวัตกรรมด้านพลังงาน และเทคโนโลยีอันทันสมัย เพิ่มเสถียรภาพและความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ลดการนำเข้า สร้างการส่งออกที่มีมูลค่าเพิ่มให้ประเทศ หนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
การผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมระบบสำรองไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรมนั้น เป็นการดำเนินงานภายใต้การดำเนินโครงการสนับสนุนการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม New S-Curve และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) และ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โดยตั้งเป้าดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2562
ชี้อุตสาหกรรม Energy Storage
มีตลาดรองรับ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมระบบสำรองไฟฟ้า (Energy Storage) เป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่ต่อยอดมาจากอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ที่ใช้สำหรับรถยนต์ หรือแบตเตอรี่ ตะกั่วกรด (Lead Acid Battery) ที่เป็นที่รู้จักและสามารถเข้าใจได้ทันที ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีมูลค่าการผลิตและจำหน่าย จำนวน 50,000 ล้านบาท ในปี 2557 และเป็นอุตสาหกรรมที่มีผู้ประกอบการเพียงไม่กี่ราย แต่มีมูลค่าการค้าที่มีนัยพอสมควร
ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนให้เกิดอุตสาหกรรมแห่งอนาคต อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งภาครัฐเองก็ได้มีนโยบายการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมไปถึงข้อตกลงความร่วมมือระดับภูมิภาคอื่นๆ อาทิ การส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากโครงการระเบียงเศรษฐกิจ (Economic Corridors) และ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต S-curve และ New-S-curve ที่เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ได้มากที่สุดบนพื้นฐานของประเทศ โดยจะเน้นไปในอุตสาหกรรมใหม่ๆ และ Energy Storage ซึ่งเป็นโครงการเป้าหมายที่มีความสำเร็จสูง (Quick Win Project) เป็นฐานของการพัฒนาอุตสาหกรรม New S-Curve และ First S-Curve
คาดอุตสาหกรรม Energy Storage
จะมีมูลค่าสูงขึ้น 10 เท่าภายใน 5 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสนับสนุนให้เกิดอุตสาหกรรมแห่งอนาคต อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า และระบบการกักเก็บพลังงานของประเทศ Energy Storage จึงได้รับความสนใจ และได้รับมาตรการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง อาทิ การสนับสนุนเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน และการสนับสนุนการลงทุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งหากมีการส่งเสริมจากภาครัฐอย่างเต็มระบบ คาดว่าภายใน 5 ปีข้างหน้า ว่าจะมีมูลค่ามากขึ้นถึง 10 เท่า และมีขนาดตลาดประมาณ 500,000 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดตลาดแบตเตอรี่ในประเทศไทยที่มีประมาณ 50,000 ล้านบาท จะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในสัดส่วนร้อยละ 3.6 ของจีดีพีประเทศ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย 4.0 การต่อยอดอุตสาหกรรมเดิมเป็นอีกปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยลดการนำเข้า และสร้างการส่งออกที่มีมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ
ทั้งนี้ หากนิคมอุตสาหกรรม New S-Curve เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และโครงการนำร่องอย่างอุตสาหกรรมระบบสำรองไฟฟ้า (Energy Storage) เกิดขึ้นจริง ไม่เพียงจะเป็นมิติใหม่ และเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจไทย หากยังเป็นการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน เป็นผู้เสนอแนวคิดในการพัฒนาและรัฐบาลพร้อมเดินหน้าสนับสนุน ยกระดับการผลักดันเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ตลาดที่รองรับอุตสาหกรรมหลัก
- ระบบสำรองไฟฟ้า Energy Storage สำหรับระบบกักเก็บไฟฟ้าของประเทศ Generation Unit และ Distribution รวมถึง
ระบบกับเก็บพลังงานของพลังงานทดแทนในรูปแบบต่างๆ เพื่อความเสถียรของระบบไฟฟ้าของประเทศ และใช้ในช่วงความต้องการไฟฟ้าสูง (Cut Peak) - ระบบสำรองไฟฟ้า Energy Storage ใช้สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าประเภท Hybrid Electric Vehicle (HEV), Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) Battery Electric Vehicle (BEV) และอื่นๆ
- ระบบสำรองไฟฟ้า Energy Storage สำหรับอุตสาหกรรมประเภทอุปกรณ์สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สำหรับโทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ
EXECUTIVE SUMMARY
The Federation of Thai Industries (F.I.T) joining hand with Industrial Estate Authority of Thailand (IEAT) to promote and encourage ‘Industrial Estate Set Up for New S-Curve and Related Industry Project’ for support new economic concept ‘Thailand 4.0’. The goal aimed to succeed in 2019 with pilot project ‘Energy Storage Industry’ which focused on energy innovation and advance technology to enhance stability and durability of electrical system, improve competitive capability, reduce importing energy and created value added for exporting to strengthen the economic of Thailand.
