ก.พลังงาน เปิดเวทีระดมความคิดเห็น สร้างโรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก มุ่งส่งเสริมพืชพลังงาน สร้างรายได้เกษตรกร วางเกณฑ์ร่วมลงทุน ให้ชุมชนมีส่วนถือหุ้น โดยให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนก่อสร้าง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่การกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันนี้ 9 ตุลาคม 2562) กระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงาน ทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.)สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน)การไฟฟ้ส่วนภูมิภาค(กฟภ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน สภาอุดสาหกรรมแห่งประเทไทยกลุ่มวิสหกิจมชนและผู้ประกอบการได้ร่มกันประชุมรับฟังความคิดเห็น “การพัฒนาโครงการโรไฟฟ้ชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรก”ที่จะนำไปสู่การจัดทำกรอบการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนผ่านกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงนและกองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้ตามโยบายของกระทรวงพลังงาน
ทั้งนี้เป้าหมายโรไฟฟ้ชุมชนนันให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้ของโรงไฟฟ้โดยการผลิต ใช้ และจัดจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อการสริมสร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้ในประเทศและเพิ่มรายได้เข้าสู่ชุมชนตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากไม่ว่จะเป็นการประกันรายได้จากการปลูกพืชพลังงาน การเข้าไปถือ หุ้นในประกอบการ กิจการโรงไฟฟ้า รวมถึงผลประโยชน์ของชุมชนที่จะไดรับรายได้จากการขายไฟฟ้า
“ผลจากการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในครั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะนำข้อเสนอแนะ และข้อคิดเห็นไปประกอบการพิจารณารูปแบบการพัฒนาโครงการที่เหมาะสม เพื่อเป็นแนวทางในการเปิดรับภาคเอกชนที่สนใจเข้าร่วมลงทุนกับชุมชนในการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนโดยกรอบดังกล่าว จะนำเสนอสู่การพิจารณาขอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. อีกครั้ง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาโรงไฟฟ้าในปี2563 “ นายสนอิรัตน์
กล่าว
สำหรับกรอบนโยบายการพัฒนาโรงไฟฟ้าชุมชน จะมีการกำหนด พื้นที่เป้าหมาย ที่ตั้งโรงไฟฟ้า ซึ่งต้องเป็นพื้นที่มีศักยภาพด้านพลังงงานหมุนเวียน โดยเฉพาะวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว ซังข้าวโพด รวมถึงพืชพลังงานอย่างหญ้าเนเปียร์ และมีระบบโครงสร้างพื้นฐานรองรับ ไม่ว่าจะเป็น ระบบส่ง ระบบจัดจำหน่ายที่สามารถรองรับไฟฟ้าที่ผลิตได้จากชุมชน โดยแนวทางกาจัดตั้งโรงไฟฟ้าดังกล่าว จะเป็นการีร่วมลงทุนระหว่าง เอกชน กับชุมชน ซึ่งมีเงื่อนไขที่ใช้เอกชนเป็นผู้ลงทุน ในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ และเปิดให้ชุมชนเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วนที่เหมาะสมในขั้นตอนของการ ดำเนินการผลิตไฟฬาเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้เป้าหมายการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชน เป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานหมุนเวียน ตามแผนการพัฒนา พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ซึ่งได้กำหนดประเภทเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ที่มาจาก ชีวมวล ก๊าชชีวภาพ พลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานผสมผสาน ด้วยขนาดกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าที่สอดคล้องกับความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ โดยมีสัญญาการรับซื้อไฟฟ้จากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และที่สำคัญราคาซื้อขายไฟฟ้า ต้องกระทบกับค่าไฟฟ้าทำให้น้อยที่สุด ที่มีเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงจากพลังงานทดแทนในสัดส่วนร้อยละ 30 ให้เป็นไปตามแผนพัฒนกำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ. 2561-2580 หรือแผน POP 2018 เป็นการกระจายเชื้อเพลิงให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อเสริมความมั่นคงระบบพลังงานของไทย