การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยดูเหมือนยังซบเซา ด้วยเม็ดเงินลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศที่มีไม่มากนัก สถานการณ์เศรษฐกิจเช่นนี้ ทำให้นักลงทุนคิดแล้วคิดอีกก่อนจะตัดสินใจจ่ายเงิน ซึ่งนั่นย่อมส่งผลโดยตรงต่อการลงทุนเครื่องมือ เครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่ๆ ของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเช่นกัน ทว่าสถานการณ์ของมาซัค (ประเทศไทย) กลับสวนทางกัน เพราะด้วยความแข็งแกร่งด้านเครื่องจักรกลที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต ประกอบกับประสบการณ์กว่า 10 ปีของมาซัค (ประเทศไทย) ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายทั้งสินค้าและบริการ ป้อนเครื่องจักรและโซลูชั่นต่างๆ เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม จึงทำให้บริษัทได้รับความเชื่อมั่นและการยอมรับเป็นอย่างดี และเมื่อไม่นานมานี้ มาซัค ยังเปิดตัวเครื่องตัดเลเซอร์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด OPTIPLEX 3015 DDL ที่ คุณทัตสึโระ โมริยาม่า ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มาซัค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทรงประสิทธิภาพกว่าเครื่องตัดเลเซอร์ใดๆ ที่ Mazak เคยมีมา
หัวใจของอุตสาหกรรม 4.0 คือ ต้องสื่อสารและเชื่อมต่อได้
เป็นที่กล่าวถึงอย่างหนาหูเกี่ยวกับหัวข้อที่รัฐบาลประกาศยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยทุกภาคส่วนต้องเดินหน้าตามแผนประเทศไทย 4.0 ซึ่งหนึ่งในนั้นคือภาคอุตสาหกรรม
ภาคอุตสาหกรรมที่ดูเผินๆ แล้ว เหมือนจะซบเซา ไม่มีเม็ดเงินลงทุนให้เห็นอย่างเด่นชัด ตัวเลขรายได้ และยอดการส่งออกเองก็ไม่ได้หวือหวา แต่ความเป็นจริง มีการขยับตัวให้เห็นกันอย่างน่าจับตามอง ทั้งด้านวิชาการที่เร่งวิจัยและพัฒนา และภาคเอกชนที่พยายามสร้างนวัตกรรมเพื่อแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง รวมถึงภาครัฐที่พยายามออกนโยบายเพื่อสนับสนุนการลงทุนเทคโนโลยีต่างๆ
ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มาซัค (ประเทศไทย) จำกัด
เรื่องนี้ คุณโมริยาม่า กล่าวว่า อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเน้นเรื่อง Internet of Things และการสื่อสารเชื่อมต่อระหว่างเครื่องจักรนั้น ถือเป็นหัวใจในการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้ประกอบการได้อย่างคาดไม่ถึง
“เช่นเดียวกับเครื่องจักรของ Mazak รุ่นล่าสุด ที่จะมาพร้อมกับตัวควบคุม Smooth Controller หรือ Preview G Controller โดย NC ทั้งหมดสามารถบูรณาการร่วมกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์โรงงาน ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานติดตามภาพรวมทั้งหมดของอุปกรณ์ผลิต และวิเคราะห์ผลลัพธ์ผลิตภัณฑ์ได้
นอกจากนี้ เครื่องจักรทั้งหมดของเราอ้างอิงมาตรฐาน MTConnect ทำให้สามารถสื่อสารแบบเปิด เชื่อมต่ออุปกรณ์เพิ่มเติมได้ สามารถปรับแต่ง และอัพเดทให้เหมาะสำหรับทุกความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน” คุณโมริยาม่า กล่าวถึงความเชื่อมโยงระหว่างเครื่องจักรของ Mazak และนโยบายอุตสาหกรรม 4.0
คุณโมริยาม่า ยังกล่าวอีกว่า Mazak จัดหาเทคโนโลยีล้ำสมัย สนับสนุน และส่งเสริมให้ลูกค้าได้ใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นเพื่อให้เกิดการผลิตอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเทคโนโลยีจัดการงานหลายอย่าง ที่รวมเอากระบวนการแมชชีนนิ่งทั้งหมดไว้ในเครื่องเดียว ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของ Mazak ที่ช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการผลิต และลดระยะเวลาของกระบวนการลง
Mazak เปิดตัวเทคโนโลยีเครื่องตัดเลเซอร์ ง่าย แรง เร็ว คุ้มค่าเต็มประสิทธิภาพ
ส่วนผลิตภัณฑ์ไฮไลท์น่าจับตามอง ที่ Mazak ปล่อยออกมาตีตลาดเครื่องตัดเลเซอร์ อย่าง OPTIPLEX 3015 DDL เป็นเครื่องตัดเลเซอร์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเลเซอร์ล้ำสมัย ได้แก่ ไดเร็กไดโอดเลเซอร์ (Direct Diode Laser) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่พัฒนาต่อมาจากระบบการกำเนิดเลเซอร์แบบคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) และไฟเบอร์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานมีค่าสูงกว่าเลเซอร์แบบคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 4–5 เท่า
คุณโมริยาม่า กล่าวเพิ่มเติมถึงข้อได้เปรียบของระบบใหม่นี้ว่า ไดเร็กไดโอดเลเซอร์ที่ Mazak นำมาใช้ ทำให้ OPTIPLEX 3015 DDL มีประสิทธิภาพการตัดพลังงานสูง และความเร็วที่เหนือกว่าในการตัดชิ้นงานที่บางและหนาระดับปานกลางได้เร็วกว่าทั้งเครื่องตัดเลเซอร์แบบคาร์บอนไดออกไซด์ และเครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์ อีกทั้ง การเลือกใช้วัสดุที่สะท้อนแสงสูงเป็นส่วนประกอบของเครื่องตัด ทำให้สามารถตัดได้โดยใช้ความยาวคลื่นที่สั้นกว่า และการดูดซับความร้อนที่สูงกว่าอีกด้วย
ข้อดีของ Direct Diode Laser คือ การอนุรักษ์พลังงานจึงทำให้ OPTIPLEX 3015 DDL เป็นทั้งเครื่องเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง และอนุรักษ์พลังงานที่มีมากกว่ารุ่น CO2 ถึง 4-5 เท่า
“อีกหนึ่งจุดแข็งที่หาได้ยากจากเครื่องตัดอื่น คือ ชุดควบคุมหัวเชื่อมต่างๆ และความหลากหลายของฟังก์ชั่นแบบสมาร์ทหรืออัจฉริยะนี้ ทำให้การทำงานของผู้ใช้ (Users) ง่ายขึ้นทั้งการควบคุม การตั้งโปรแกรม หรือการแก้ปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดจากความผิดพลาดสุดวิสัย มีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างไม่มีเครื่องจักรตัวไหนทำได้มาก่อน” คุณโมริยาม่ากล่าว
ทั้งเครื่องจักรและซอฟต์แวร์ ครบวงจรในที่เดียว
“ถึงแม้ว่านักเศรษฐศาสตร์หลายท่านจะพูดถึงเศรษฐกิจขาลงของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ที่รายรับและกำไรยังไม่กระเตื้อง ทำให้การลงทุนชะลอตัวไปด้วยส่งผลให้การแข่งขันในตลาดเครื่องมือ เครื่องจักร รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตรุนแรงมากขึ้น” คุณโมริยาม่าวิเคราะห์
อย่างไรก็ตาม Mazak เชื่อมั่นในจุดแข็งของเครื่องจักรจึงยังพัฒนาและผลิตเครื่องจักรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ที่สามารถรวมโซลูชั่นครบวงจร โดยรวมระบบอัตโนมัติเข้าไว้กับเครื่องจักร ซึ่ง คุณโมริยาม่า กล่าวว่า เป็นเพราะ Mazak เป็นซัพพลายเออร์เครื่องมือเครื่องจักรไม่กี่รายที่มีทั้งซอฟต์แวร์อุปกรณ์อัตโนมัติ และเครื่องตัดโลหะ รวมถึงเครื่องตัดเลเซอร์เป็นของตัวเอง ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เรามีทำให้ไม่ได้รับผลกระทบเรื่องยอดขายมากนัก กล่าวคือ เราสามารถกระตุ้นยอดขายได้แม้ในสภาวะขาลงของเศรษฐกิจประเทศไทย
ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นเจ้าของเทคโนโลยีที่หลากหลาย และมีเครือข่ายกว่า 30 สาขาทั่วโลก มีบุคลากรที่มีทั้งความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์จำนวนมาก เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และปัญหา รวมถึงวิธีการรับมือกับปัญหานั่นยิ่งเป็นการส่งเสริมความแข็งแกร่งให้องค์กรได้เป็นอย่างดี
“Mazak เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์เครื่องมือเครื่องจักรไม่กี่รายที่มีเครือข่ายสนับสนุนตั้งอยู่ทั่วโลก ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรถูกแบ่งปันทั่วถึงกันทั่วโลก ทำให้ความรู้ทั้งหมดถูกแบ่งปันร่วมกันในทีมงานของ Mazak ทั่วโลก” คุณโมริยาม่า กล่าว
บริการหลังการขายต้องเร็วเพราะเวลา คือ ทรัพยากรที่มีค่าที่สุด
หนึ่งในความกังวลของผู้ประกอบการ คือ ปัญหาการขายทิ้ง กล่าวคือ ผู้ประกอบการลงทุนซื้อเครื่องมือ เครื่องจักร หรือเทคโนโลยีมาในราคาสูง แต่กลับถูกบริษัทตัวแทนจำหน่ายเพิกเฉยและละเลยเมื่อเครื่องเกิดปัญหา
คุณโมริยาม่า ยืนยันถึงหัวใจในการทำงานของ Mazak ว่า บริการหลังการขายถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคุณภาพของผลิตภัณฑ์ หรือความล้ำสมัยของเทคโนโลยี Mazak จึงเข้มงวดมาก เรื่องการส่งมอบอะไหล่ให้ตรงต่อเวลาและการเข้ามาดูแลซ่อมบำรุงเครื่องจักรอย่างรวดเร็วโดยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ
“เราเชื่อว่า การส่งมอบอะไหล่ชิ้นส่วนอย่างตรงต่อเวลาเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เช่น ในกรณีที่เครื่องจักรเกิดการชำรุด Mazak ประเทศไทยมีศูนย์อะไหล่ชิ้นส่วนภูมิภาคหรือหากอะไหล่ชิ้นส่วนขาดแคลน ศูนย์อะไหล่ชิ้นส่วนที่อยู่ใกล้เคียงที่สุด คือ ประเทศสิงคโปร์ สามารถจัดหาให้ได้โดยใช้เวลาไม่มาก เพราะเราตระหนักว่า เวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุด
หากยังหาอะไหล่ชิ้นส่วนที่ต้องการจากสาขาสิงคโปร์ไม่ได้พวกเรามีศูนย์อะไหล่ชิ้นส่วนของโลกตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำงานตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ เรายังมีเครือข่ายอะไหล่ชิ้นส่วนทั่วโลกตั้งอยู่ในอเมริกาเหนือและยุโรป ทำให้พวกเราสามารถส่งมอบอะไหล่ชิ้นส่วนได้ในระยะเวลาสั้น” คุณโมริยาม่า กล่าวถึงอะไหล่ชิ้นส่วนของเครื่องจักร Mazak
คุณโมริยาม่า ยังให้คำมั่นว่า ตราบใดยังมีลูกค้าใช้งานเครื่องจักรรุ่นใดๆ ก็ตามของ Mazak อยู่ จะจัดหาอะไหล่ชิ้นส่วนมาให้ได้ตามความต้องการของลูกค้า แม้ว่าเครื่องจักรรุ่นนั้นๆ จะมีอายุกว่า 20 ปีก็ตาม
แน่นอนว่า ในสถานการณ์เศรษฐกิจเช่นนี้ ก่อนจะลงทุนด้านเครื่องมือ เครื่องจักร และเทคโนโลยีใดๆ ผู้ประกอบการหรือเจ้าของโรงงานคงคิดหนัก แต่ด้วยเทคโนโลยีเครื่องตัดเลเซอร์ของ Mazak ที่ไม่เพียงทันสมัย แต่ยังมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นทั้งในแง่ความหลากหลายของการใช้งาน ความรวดเร็วประหยัดเวลา รวมถึงระบบ MTconnect ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานหรือผู้ควบคุมเครื่องสามารถปรับแต่ง หรือโมดิฟายด์ให้เหมาะสมตามความต้องการได้ นี่จึงถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนระยะยาวเลยทีเดียว
