กระทรวงอุตสาหกรรม ติวเข้มอุตสาหกรรมจังหวัด เร่งสร้างและพัฒนาเครือข่ายอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อมในทุกภาคหวังสร้างความไว้วางใจ ลดปัญหาข้อขัดแย้ง
นายเอกภัทร วังสุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในระหว่างการเป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างความรู้ในการพัฒนาเครือข่ายอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการการสร้างเครือข่ายอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม และโครงการบริหารจัดการลุ่มน้ำและวางระบบธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม ณ โรงแรมที เค พาเลซ& คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ โดยระบุว่า ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรม การเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ รวมถึงความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร สภาพสิ่งแวดล้อม ความคาดหวังของสังคมและชุมชน ระบบเศรษฐกิจโลกถูกขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัล ทำให้เกิดการแข่งขันในลักษณะไร้พรมแดนอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งในส่วนของภาคอุตสาหกรรมเองจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตและการบริการให้เกิดความสมดุล โดยเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งจากเศรษฐกิจภายในประเทศ (Local Economy) และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นฐานรากของการเติบโตยุคใหม่ที่ครอบคลุมทั่วถึงและยั่งยืน (Inclusive Growth)
การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของเราให้ก้าวเดินได้อย่างรวดเร็วทันต่อสถานการณ์โลก จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในการร่วมกันดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลฯ จึงได้ริเริ่มดำเนินงานโครงการสร้างและพัฒนาเครือข่ายอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม และโครงการบริหารจัดการลุ่มน้ำและวางระบบธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นความสำคัญไปที่กลุ่มเครือข่ายภาคชุมชน สถานประกอบการ และหน่วยงานภาครัฐ
ทั้งนี้เพื่อให้ทุกภาคส่วนเกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือ สอจ.ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโครงการต้องศึกษาและหากลวิธีในการรักษา การสร้างแรงจูงใจกลุ่มเครือข่ายรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการสร้างและพัฒนาเครือข่ายอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม และภายใต้โครงการการบริหารจัดการลุ่มน้ำและวางระบบธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมให้สามารถดำเนินงานต่อไปได้อย่างเข้มแข็งส่งผลให้การพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศประสบความสำเร็จซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของประเทศไทย 4.0
ด้านนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า โครงการสร้างและพัฒนาเครือข่ายอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการลุ่มน้ำและวางระบบธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมทั้ง 2 โครงการ เป็นโครงการที่ให้ความสำคัญในด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงฯ โดยปัจจุบันโครงการสร้างและพัฒนาเครือข่ายอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม มีจำนวนสมาชิก 10,537 ราย ส่วนโครงการการบริหารจัดการลุ่มน้ำและวางระบบธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้สถานประกอบการนำระบบธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมมาใช้ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร รวมถึงการบริหารจัดการแหล่งน้ำบริเวณโดยรอบสถานประกอบการและชุมชน ซึ่งในปีงบประมาณ 2562 คาดว่าจะสามารถชักชวน สถานประกอบการให้เข้าร่วมโครงการได้ จำนวน 150 แห่งทั่วประเทศ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมจะดำเนินการจัดเก็บฐานข้อมูลสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานเข้าระบบฐานข้อมูลและเผยแพร่ออกสู่สาธารณะผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงอุตสาหกรรมต่อไป