กรมโรงงานอุตสาหกรรมจับมือกรมศุลกากรมอบเครื่องมือตรวจวิเคราะห์ ชนิดสารทำความเย็น ป้องกันการลักลอบนำเข้าสารไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอน หรือสาร HCFCs ตามแนวชายแดน
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.)กล่าวภายหลังเป็นประธาน มอบเครื่องตรวจวิเคราะห์ชนิดสารทำความเย็น พร้อมอุปกรณ์เสริม มูลค่า 1.9 ล้านบาท ให้แก่กรมศุลกากร ว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการดำเนินการให้เป็นไปตามพันธกรณีภายใต้พิธีสารมอนทรีออลว่าด้วยสารทำลายชั้นโอโซน ได้ดำเนินโครงการลดและเลิกใช้สารไฮโดรคลอโรฟูออโรคาร์บอนของประเทศไทย ( Thailand HCFCs Phase-out Project: HPMP) และได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพหุภาคีภายใต้พิธีสารมอนทรีออล ในการดำเนินการจัดหาเครื่องมือต่างๆ ได้แก่ เครื่องตรวจวิเคราะห์ชนิดสารทำความเย็น (Refrigerant Identifier) และเครื่องตรวจรั่วสารทำความเย็น (Leak Detector) จำนวน 9 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์เสริม มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ให้กรมศุลกากร
รวมทั้งจัดฝึกอบรมวิธีการใช้และบำรุงรักษา เพื่อส่งเสริมศักยภาพเจ้าหน้าที่ของประเทศไทยในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับสารทำลายชั้นบรรยากาศ โอโซน โดยการส่งมอบครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วรวมจำนวนทั้งสิ้น 21 เครื่อง มูลค่า 4,671,597 บาท
ด้านนายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย กล่าวว่า พันธกิจข้อหนึ่งของกรมศุลกากร คือ “ปกป้องสังคมให้ปลอดภัยด้วยระบบควบคุมทางศุลกากร” กรมศุลกากรจึงตระหนักและให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกัน ปราบปราม การลักลอบนำเข้าหรือส่งออกสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน การที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้จัดหาและส่งมอบเครื่องมือตรวจวิเคราะห์ชนิดสารทำความเย็น จำนวน 9 เครื่อง ให้กับกรมศุลกากรไว้ใช้งาน จึงถือได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และช่วยให้ด่านศุลกากรหรือท่าที่นำเข้า สามารถตรวจวิเคราะห์ชนิดสารทำความเย็นได้ในเบื้องต้น ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้มาตรการการควบคุม กำกับดูแล สารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนของประเทศไทยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นางสาววราภรณ์ หิรัญวัฒน์ศิริ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านสิ่งแวดล้อม ธนาคารโลก กล่าวว่า การส่งมอบเครื่องมือระบุสารทำความเย็น Refrigerant Identifier (RI) ให้กับกรมศุลกากรภายใต้โครงการ HCFC Phaseout Management Plan stage I คาดว่าจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของกรมศุลกากรในการตรวจตราการนำเข้าสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนได้อย่างมีประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้น เพราะหากมีการนำเข้าสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนเกินกว่าข้อตกลงที่ทำไว้กับ Executive Committee of the Multilateral Fund ภายใต้พิธีสารมอนทรีออล จะส่งผลกระทบทางลบต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก
